ทำไมต้องตรวจจอประสาทตา

December 18 / 2024

 

 

ทำไมต้องตรวจจอประสาทตา

 

 

 

จอประสาทตา คืออะไร

     จอประสาทตา (Retine) คือชั้นบางของเซลล์รับภาพที่อยู่ด้านหลังของดวงตา การที่คนเราจะสามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจนจำเป็นต้องมีจอประสาทตาที่ปรกติ ถ้าหากเปรียบเทียบดวงตากับกล้องถ่ายรูป จอประสาทตาจะเทียบได้กับฟิล์มของกล้อง ซึ่งถ้าฟิล์มเกิดความเสียหาย ภาพที่ถ่ายจากกล้องก็จะมีคุณภาพไม่ดี เช่นเดียวกับผู้ที่มีโรคของจอประสาทตาการมองเห็นก็จะไม่ชัดเจน จุดสำคัญของจอประสาทตา คือ จุดรับภาพ (Macula) ซึ่งเป็นบริเวณเล็ก ๆ ที่สำคัญมากในการมองตรงกลาง (central vision) บริเวณอื่นที่เหลือของจอประสาทตาจะช่วยให้มองภาพด้านข้าง (Peripheral vision)

 

 

 

 

โรคเกี่ยวกับจอประสาทตาที่พบบ่อย 

1.  จอประสาทตาเสื่อมจากเบาหวาน

     ผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง พบว่ามีอาการผิดปกติทางตาบ่อย เช่น ตามัว จอประสาทตาเสื่อม หรือเบาหวานขึ้นตา ดังนั้น ผู้ป่วยเบาหวานควรได้รับการตรวจตาอย่างละเอียดโดยจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ด้วยเครื่องตรวจวัดความดันลูกตา เครื่อง Slit Lamp, เครื่อง Ophthalmoscope, เครื่อง Fundus Camera เพราะการตรวจพบและได้รับการดูแลในระยะแรกของโรค คือ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการป้องกันการสูญเสียการมองเห็นจอประสาทตาเสื่อมในโรคเบาหวาน 

 

 

 

 

2.  จอประสาทตาลอกหลุด

     เมื่อมีรูฉีกขาดที่จอประสาทตา น้ำวุ้นตาจะค่อย ๆ เซาะเข้าไปในชั้นของจอประสาทตา ทำให้การมองเห็นผิดปกติ โดยในระยะแรกผู้ป่วยจะมองเห็นจุดดำ ๆ ลอยไปมา มีแสงแว๊บในลูกตา มีม่านบังตาหรือตามัวลงเมื่อเป็นมาก ผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดจอประสาทตาหลุดลอก คือ ผู้ที่มีสายตาสั้น เคยมีอุบัติเหตุที่ตาหรือใบหน้า มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้

 

 

 

ทำอย่างไรเมื่อจอประสาทตาหลุดลอก

     เมื่อเกิดจอประสาทตาลอกหลุด จักษุแพทย์จะใช้แก๊สหรือน้ำมันซิลิโคนดันจอประสาทตาให้กลับเข้าที่ โดยอาศัยเครื่องมือที่ประสิทธิภาพสูงช่วยรักษา

 

3.  จุดรับภาพเสื่อม

     พบได้ในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีสายตาสั้นมาก ซึ่งเมื่อเกิดความเสื่อมของจุดรับภาพขึ้น จะทำให้มองเห็นตรงกลางภาพบิดเบี้ยว มีจุดบอดที่ตรงกลางภาพหรือการมองเห็นสีผิดปกติไป

 

 

ตรวจจอประสาทตา

 

 

ตรวจจอประสาทตาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย 

จักษุแพทย์มีเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อช่วยในการตรวจหลายชนิด ดังต่อไปนี้ 

 

  • Slit lamp และ Ophthalmoscope เครื่องมือที่ใช้ไฟสว่างและมีกำลังขยายสูง Fundus Photography เพื่อตรวจและถ่ายรูปจอประสาทตา โดยไม่ต้องหยอดยาขยายม่านตา 
  • การฉีดสี Fluorescein (Fluorescein Angiography) เป็นการตรวจพิเศษ เพื่อดูหลอดเลือดและภาวะต่าง ๆ ของจอประสาทตา
  • Optical Coherence Tomography (OCT) เป็นการตรวจวิเคราะห์ชั้นต่างๆ ของจอประสาทตา เพื่อใช้ประกอบวินิจฉัยโรคเกี่ยวกับจอประสาทตา ซึ่งสามารถพบได้โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ  ผู้ป่วยเบาหวานขึ้นตาหรือผู้ที่มีภาวะสายตาสั้น

     

ดวงตาเป็นอวัยวะที่เปราะบาง ดังนั้นการตรวจพบและวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถทำให้ผู้ป่วยคงมีสายตาที่ปกติได้