ดนิตา กานต์นฤนิมิต
รังสีรักษาและมะเร็งวิทยา (Radiotherapy and Oncology)
เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้
เราใช้ Cookies เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด สรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและ Cookies อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Policy)
บริษัท โรงพยาบาลรามคําแหง จํากัด (มหาชน)
โรงพยาบาลรามคำแหง (“โรงพยาบาล”) ได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ที่ท่านให้โรงพยาบาลใน ระหว่างการร้องขอการบริการ การเยี่ยมชมเว็บไซต์
หรือใช้แอพพลิเคชั่นของหรือจากโรงพยาบาล นโยบาย คุ้มครองข้อมูลส่วน
บุคคลนี้รวมถึงข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับตัวคุณโดยเป็นการส่งต่อมาจากบุคคลที่สาม
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง “ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือ ทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ”
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
1. โรงพยาบาลเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่าน ที่สามารถระบุตัวตนได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อประโยชน์ต่อท่านในระยะเวลาที่เหมาะสมจำเป็นต่อการให้บริการ ในกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูล กับโรงพยาบาล หรือร้องขอการบริการจากโรงพยาบาลผ่านช่องทางเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นหรือ ช่องทางอื่นใดของโรงพยาบาล อาทิเช่น การนัดหมายแพทย์ การทำธุรกรรมแบบออนไลน์ การสมัครรับจดหมายข่าว การขอรับความช่วยเหลือพิเศษ รวมไปถึงการทำธุรกรรมแบบออฟไลน์ เช่น การลงทะเบียนผู้ป่วยที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนของโรงพยาบาล หรือจากความสมัครใจ ของท่านใน การทำแบบสอบถาม (Survey) หรือการโต้ตอบทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) หรือการกรอก ให้ข้อมูลประกอบการสมัครงาน หรือช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ระหว่างโรงพยาบาล และท่าน
2. โรงพยาบาลอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม เช่นธุรกิจในเครือข่าย ตัวแทน จำหน่าย หรือผู้ให้บริการของโรงพยาบาล หน่วยงานภาครัฐ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวม
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวมจากท่านจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของการเก็บรวบรวม และประเภทของการบริการที่ท่านร้องขอจากโรงพยาบาล ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกนำมาใช้เพื่อให้การทำธุรกรรมออนไลน์หรือออฟไลน์ หรือบริการที่ได้รับการร้องขอเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวมโดยตรงจากท่าน หรือจากบุคคลที่สาม มีดังนี้
1) ข้อมูลระบุตัวตน เช่น ชื่อ ภาพถ่าย เพศ วัน เดือน ปีเกิด หนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรประชาชน หรือหมายเลขที่สามารถระบุตัวตนอื่นๆ
2) ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมลล์
3) ข้อมูลการชำระเงิน เช่น ข้อมูลการเรียกเก็บเงิน ข้อมูลบัตรเครดิตหรือเดบิต และ รายละเอียดบัญชี ธนาคาร
4) ข้อมูลการเข้ารับบริการ เช่น ข้อมูลการนัดหมายแพทย์ ข้อมูลส่วนบุคคลของญาติ ความต้องการ เกี่ยวกับห้องพัก อาหาร และบริการเสริมอื่นๆ
5) ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด เช่น ข้อมูลการลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรมกับเรา
6) ข้อมูลสถิติ เช่น จำนวนผู้ป่วย และการเข้าชมเว็บไซต์
7) ข้อมูลจากการเข้าใช้เว็บไซต์ของโรงพยาบาล
8) ข้อมูลด้านสุขภาพ รายงานที่เกี่ยวกับสุขภาพกาย และสุขภาพจิต การดูแลสุขภาพของท่าน ผลการทดสอบจากห้องทดลอง ห้องปฏิบัติการ และการวินิจฉัย
9) ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาและการแพ้ยาของท่าน
10) ข้อมูล Feedback และผลการรักษาที่ท่านให้ไว้
เราจะไม่เก็บและใช้ข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนของคุณ เช่น เชื้อชาติ ความเชื่อทางศาสนา ประวัติอาชญากร เว้นแต่เป็นไปตามที่ข้อบังคับและกฎหมายกำหนด หรือโดยความยินยอมของท่าน
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1) จัดหาบริการ หรือส่งมอบบริการของโรงพยาบาล
2) นัดหมายแพทย์ ส่งข่าวสาร แนะนำบริการของโรงพยาบาล
3) การประสานงานและส่งต่อข้อมูลซึ่งจะช่วยให้การส่งต่อผู้ป่วยมีความรวดเร็วขึ้น
4) การยืนยันตัวตนของผู้ป่วย
5) ส่งข้อความแจ้งเตือนการนัดหมายแพทย์ หรือการเสนอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาล
6) อำนวยความสะดวกและนำเสนอรายการสิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่ท่าน
7) จุดประสงค์ด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย และการลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การส่งข้อมูลเกี่ยวกับ โปรโมชั่น ผลิตภัณฑ์และบริการ รายการส่งเสริมการขาย และธุรกิจพันธมิตร
8) เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสาร ตอบค าถาม หรือตอบสนองข้อร้องเรียน
9) สำรวจความพึงพอใจของลูกค้า วิจัยตลาด วิเคราะห์ทางสถิติประมวลผลและแสดงผลเพื่อเป็น ข้อมูลในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ให้แก่ผู้ใช้บริการได้รับประโยชน์ยิ่งขึ้น
10) วัตถุประสงค์ทางบัญชีหรือทางการเงิน เช่นการตรวจสอบการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต การเรียกเก็บเงินและการตรวจสอบความถูกต้อง การขอคืนเงิน
11) รักษาความปลอดภัย รวมถึงความปลอดภัยขณะพักรักษาอยู่ในโรงพยาบาล
12) เพื่อวัตถุประสงค์ในการสมัครงาน การเป็นพนักงาน หรือวัตถุประสงค์อื่นใดที่เกี่ยวข้อง
13) ปฏิบัติตามกฎของโรงพยาบาล
14) ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนด ระเบียบ ข้อบังคับ หรือการร้องขอใดๆจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียกพยาน หรือคำสั่งศาล หรือการร้องขออื่นๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
15) วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่สนับสนุนการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น หรือที่ได้รับความยินยอมจาก ท่านเป็นครั้งคราว
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลอาจเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สาม ซึ่งอาจตั้งอยู่ภายในหรือ นอกราชอาณาจักร โดยโรงพยาบาลจะดำเนินตามมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสม หรือเป็นไปตามข้อบังคับและ กฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ที่ตามระบุไว้ข้างต้น ให้แก่
1) พันธมิตรทางธุรกิจ เช่น บริษัทประกัน พันธมิตรที่เข้าร่วมรายการโปรแกรมสะสมคะแนน และสิทธิ ประโยชน์และศูนย์การแพทย์ และหรือบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการให้บริการ
2) ธนาคาร และผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต หรือเดบิต
3) เจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงและความปลอดภัย
4) หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานศุลกากร
5) หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้
การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์บุคคลที่สาม เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบนมือถือของโรงพยาบาล อาจมีลิงก์เชื่อมไปยังเว็บไซต์บุคคลที่สาม หากท่านไปตาม ลิงก์เหล่านี้ นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ไม่มีผลกับเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม โปรดทราบว่าโรงพยาบาลไม่ สามารถรับผิดชอบใดๆ ต่อการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบุคคลที่สามดังกล่าว เนื่องจากอยู่นอกการ ควบคุมของโรงพยาบาล
การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล และความปลอดภัย
1. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูก เก็บรักษาไว้นานเท่าที่จำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ตามที่อธิบาย ไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย หรือเพื่อการดำเนินการทาง กฎหมาย
2. โรงพยาบาลจะใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย และการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อ ป้องกันและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวม
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
1. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent) : ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความ ยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับโรงพยาบาลได้ ตลอดระยะเวลาที่ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับโรงพยาบาล
2. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access) : ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและ ขอให้โรงพยาบาลทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้โรงพยาบาลเปิดเผยการได้มาซึ่ง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อโรงพยาบาลได้
3. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification) : ท่านมีสิทธิในการขอให้โรงพยาบาล แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
4. สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure) : ท่านมีสิทธิในการขอให้โรงพยาบาลท าการลบข้อมูล ของท่านด้วยเหตุบางประการได้
5. สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing) : ท่านมีสิทธิในการระงับการ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
6. สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability) : ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วน บุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับโรงพยาบาลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้
7. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object) : ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
ท่านสามารถร้องขอการเข้าถึงหรือขอให้อัพเดตและแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงสิทธิอื่นใดข้างต้น หรือสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ เช่น ขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้ระงับการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรณีเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้เกิน ขอบเขตวัตถุประสงค์การใช้งานที่แจ้งให้ทราบข้างต้น หรือไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน
การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโรงพยาบาลจะแจ้ง ให้ท่านทราบด้วยการ อัพเดตข้อมูลลงในเว็บไซต์ของโรงพยาบาล https://www.ram-hosp.co.th/contactus โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้หากท่านมีคำถาม ข้อเสนอแนะ และข้อร้องเรียนเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโปรดติดต่อได้ที่อีเมลล์ support@ram-hosp.co.th
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 01 มิถุนายน 2565
(นพ.พิชญ สมบูรณสิน)
กรรมการบริหาร
บริษัท โรงพยาบาลรามคําแหง จํากัด (มหาชน)
ทางเลือกในการรักษามะเร็งตับ ด้วยวิธี TACE Test
พญ.คิ ฤกษ์ชูชิต อายุรแพทย์มะเร็งวิทยา รพ.รามคำแหง กล่าวว่า สาเหตุของ“มะเร็งตับ”เกิดขึ้นในเนื้อตับหลังจากที่ถูกทำลายจนมีความเสียหายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งที่พบบ่อยอย่างแรกคือ “การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี” หรือ “ซี” จึงเป็นการเพิ่มโอกาสการเกิดมะเร็งตับมากกว่าผู้ที่ไม่ติดเชื้อแม้จะไม่มีภาวะตับแข็งก็ตาม
สาเหตุต่อมาคือ... “การดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากมานานจนทำให้เกิดภาวะตับแข็ง”... แล้วตามมาด้วยการมีภาวะตับแข็งจากการเกิดการอักเสบของตับมาเป็นเวลานาน เช่น มีภาวะภูมิคุ้มกันทำลายตับ หรือมีภาวะไขมัน
พอกตับที่ไม่ได้เกิดจากดื่มแอลกอฮอล์ดังจะเห็นได้จากกรณีผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากเป็นตัน... ส่วนอีกสาเหตุคือ บริโภคสารพิษ เช่น “อะฟล่าทอกซิน” ซึ่งพบในเชื้อราที่อยู่บนถั่วเช่นถั่วลิสง ธัญพืชหรือข้าวโพด
เป็นแล้วมีอาการอย่างไร...ตรวจด้วยวิธีใด?
อาการที่เกิดจากโรคมะเร็งตับอาจมีหลายอย่างตั้งแต่อาการรู้สึกปวดจุกแน่นไม่สบายท้อง โดยเฉพาะบริเวณด้านบนขวาของท้อง รู้สึกท้องโตขึ้นเหมือนมีน้ำในช่องท้อง ในบางรายอาจมีอาการตัวตาเหลืองหรือที่เรียกว่าดีซ่านร่วมด้วยหากมีอาการของโรคตับร่วมด้วยอาจมีอาการเลือดออกแล้วหยุดยากหรือมีอาการช้ำได้ง่ายเพราะมีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด หรืออาจมีอาการน้ำหนักลดลงอย่างมีนัยโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน รู้สึกอยากอาหารลดลง คลื่นไส้อาเจียน หรืออ่อนเพลียมากขึ้นทั้งนี้ในแง่ของการตรวจหามะเร็งตับนั้นสามารถตรวจได้โดยใช้หลายวิธีการร่วมกันในการวินิจฉัย โดยอาจตรวจร่างกายผู้ป่วยแล้วพบว่า... มีภาวะตัว-ตาเหลือง ตับโต หรือมีน้ำในช่องท้อง... หรือจากการตรวจเลือดแล้วพบว่าค่าการทำงานของตับผิดปกติ หรือมีค่าเหลืองเพิ่มสูงขึ้น...มีสารบ่งชี้มะเร็งตับสูงผิดปกติ…นอกจากนี้ยังสามารถตรวจด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ เช่นการทำอัลตร้าซาวด์ช่องท้องและพบก้อนในตับ... การตรวจด้วยเครื่องสแกนคอมพิวเตอร์ หรือการตรวจสแกนด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า...อีกวิธีคือ...เจาะชิ้นเนื้อในตับมาตรวจ
“รักษาอย่างไร...หายได้หรือไม่”...? ทางเลือกในการรักษามะเร็งตับ ด้วยการอุดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงตัวก้อนมะเร็ง (TACE Test)
การรักษาโรคมะเร็งตับมี 2 อย่างคือ รักษาให้หายขาดไปเลยกับประคับประคองการจะรักษาให้หายขาดไปเลยคือถ้ามีก้อนเดียวในตับข้างใดข้างหนึ่งก็ตัดตับข้างนั้นทิ้งหรือทำการเปลี่ยนถ่ายตับถ้ามีตับที่สามารถนำมาเปลี่ยนได้แต่ปัญหาของบ้านเราคือเป็นพาหะของตับอักเสบ บี เยอะมาก ฉะนั้นโอกาสจะเปลี่ยนตับแล้วก็อาจเป็นอีกก็ได้ ฉะนั้นวิธีการก็คือประคับประคองหรือรักษาไม่ให้โตเกินจนควบคุมไม่ได้ดังนั้น ถ้าคุณรู้เร็วก็รักษาได้หรือถ้ามีก้อนขนาดใหญ่ก็สามารถใช้วิธีทำให้เล็กลงเพื่อให้สามารถผ่าตัดรักษาได้
นพ.อนุชิต รวมธารทอง รังสีแพทย์ รพ.รามคำแหง อธิบายว่า สำหรับวิธีรักษาแบบอื่นนั้น กรณีที่เป็นผู้ป่วยสูงอายุ หรือผ่าตัดไม่ได้ก็ยังมีอีกวิธีคือแทงเข็มเข้าที่ก้อนมะเร็งในตับแล้วป้อนความร้อนไปที่เข็มด้วยอุณหภูมิ 50 องศาขึ้นไป เพียงแต่มีข้อจำกัดในเรื่องขนาดของก้อนต้องไม่ใหญ่มากเกิน 2-3 ซม. รวมแล้วไม่เกิน 3-4 ก้อนในบริเวณใกล้ๆ กันหรือจะใช้วิธีที่เรียกว่า “การอุดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงตัวก้อนมะเร็งตับ” แล้วให้ยา “คีโม” เฉพาะที่ในปริมาณต่ำ โดยเรียกวิธีนี้ว่า TACE Test ซึ่งให้ประสิทธิภาพค่อนข้างสูงโดยยังมีวิธีรักษามะเร็งตับซึ่งคุณหมอต้องคำนึงถึงระยะของโรคและสภาวะตับของผู้ป่วยเป็นกรณีไป
ที่มา : ขอบคุณภาพจาก นพ.อนุชิต รวมธารทอง รังสีแพทย์
“ไวรัสตับอักเสบ บี” ป้องกันได้โดยฉีดวัคซีน!!!
โรคนี้เกิดจากภาวะตับไม่สมบูรณ์ ต้องหลีกเลี่ยงอาหารหรือยาที่มีผลต่อตับ เช่น “พาราเซตตามอล” หรือการกินอาหารที่มีไขมันสูงจะทำให้ตับต้องใช้พลังงานสูงในการย่อยสลาย ขณะที่ตับเปรียบเสมือนโรงกำจัดขยะ หากต้องทำงานหนักก็จะแย่ลงเรื่อยๆ และถ้าเรารู้ว่าเราเป็นพาหะของโรค “ไวรัสตับอักเสบบี” ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงก็ควรที่ต้องเข้ารับการตรวจร่างกายทุก 6 เดือน ไม่ว่าจะทำอัลตร้าซาวด์ หรือเจาะเลือดหามะเร็งตับก็รีบตรวจไว้ก่อน เพราะหากตรวจพบขณะที่ยังมีขนาดเล็กก็จะรักษาง่ายส่วนใครที่อยู่ในกลุ่มผู้มีอายุ 40 ปีขึ้นไปไม่ว่าหญิงหรือชาย ก็แนะนำให้ไปเจาะเลือดดูว่าเป็นตับอักเสบหรือไม่มีภูมิคุ้มกันหรือไม่ ถ้าตรวจแล้วพบว่าไม่มีภูมิคุ้มกัน “ไวรัสตับอักเสบบี” ก็สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีน 3 เข็ม เพื่อป้องกันไว้ก่อนได้เลย แต่สำหรับใครที่ไปตรวจแล้วพบว่า “เป็นพาหะโรคไวรัสตับอักเสบ บี” ก็ต้องพาคู่สมรสไปฉีดวัคซีนด้วย เพราะเชื้อไวรัสนี้สามารถติดต่อกันได้แบบโรคเอดส์ ซึ่งจะส่งผลให้คนที่เป็นคู่สมรสมีความเสี่ยง
“มะเร็งตับ” มีวิธีตรวจ-รักษาหลายอย่าง...พบไวโอกาสหายสูง
รพ.รามคำแหงแนะกลุ่มเสี่ยงตรวจอัลตร้าซาวด์ทุก 6 เดือนเพื่อป้องกัน!!!
แก้ไขล่าสุด 07/07/63
รังสีรักษาและมะเร็งวิทยา (Radiotherapy and Oncology)
General Med, Oncomed
อายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา
โรงพยาบาลรามคำแหง
436 ถ. รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
1512, 02-743-9999
แฟกซ์ 0 2374 0804
support@ram-hosp.co.th