โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เกิดบ่อยทุกปีแต่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

November 22 / 2024

 

 

ไวรัสไข้หวัดใหญ่ และวิธีป้องกัน

 

 

 

โรคไข้หวัดใหญ่

     โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza virus) ที่มีหลายสายพันธุ์ และอาจมีการระบาดของสายพันธุ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละปี

 

 

โรคไข้หวัดใหญ่ติดต่อได้อย่างไร

     โรคไข้หวัดใหญ่ติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัสละอองฝอยของสารคัดหลั่งทางเดินหายใจ เช่น น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะเข้าทางจมูกและปากโดยตรง บางครั้งอาจติดจากการสัมผัสเชื้อบนพื้นผิววัตถุ เช่น ลูกบิด ราวบันได จนเผลอใช้มือสัมผัสโดนจมูก ปาก หรือตา โดยเชื้อจะฟักตัว 1-4 วัน ก่อนแพร่กระจายหลังมีอาการ 5-7 วัน

 

 

 

ไข้หวัดใหญ่ไข้หวัดใหญ่

 

 

สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย

     กระทรวงสาธารณสุขคาดประมาณจํานวนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ทั้งประเทศถึง 7-9 แสนรายต่อปี โดยเป็นผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง 1-7 หมื่นรายต่อปี และมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ที่มีภาวะแทรกซ้อนถึงร้อยละ 2.5

 

 

อาการของโรคไข้หวัดใหญ่

โรคไข้หวัดใหญ่ มักมีอาการที่รุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดาและมักเกิดขึ้นทันทีทันใด

 

  • มีไข้สูงติดกันหลายวัน โดยเฉพาะในเด็กจะมีไข้สูงลอยเกินกว่า 39-40 องศาเซลเซียส
  • มีน้ำมูกใส คัดจมูก ไอ ปวดศีรษะ
  • อาจมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย 
  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย และเบื่ออาหาร
  • เด็กเล็กอาจพบท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน

 

 

 

ไข้หวัดใหญ่ไข้หวัดใหญ่ไข้หวัดใหญ่ไข้หวัดใหญ่

 

 

ภาวะแทรกซ้อนไข้หวัดใหญ่

     ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่บางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ สมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หูชั้นกลาง ไซนัสอักเสบ ไข้ชักในเด็ก เป็นต้น

 

 

ไข้หวัดใหญ่ไข้หวัดใหญ่ไข้หวัดใหญ่

 

 

การวินิจฉัยโรคไข้หวัดใหญ่

     ปัจจุบันมีการตรวจไข้หวัดใหญ่ด้วยสิ่งส่งตรวจจากทางเดินหายใจ โดยใช้ไม้พันสำลีป้ายบริเวณเยื่อบุโพรงจมูกและนำส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ สามารถทราบผลได้ภายใน 40-60 นาที

 

 

ใครที่เสี่ยงมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากไข้หวัดใหญ่?

  • หญิงตั้งครรภ์ หรือหลังคลอดภายใน 2 สัปดาห์
  • เด็กอายุน้อยว่า 2 ปี หรือผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป
  • ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคไตวาย โรคธาลัสซีเมีย โรคเบาหวาน
  • ผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งผู้ติดเชื้อเอชไอวี
  • ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
  • ผู้ที่อายุน้อยกว่า 18 ปีซึ่งทานยากลุ่มแอสไพรินเป็นเวลานาน
  • ผู้ป่วยโรคอ้วน หรือ ดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่าหรือเท่ากับ 30 kg/m2

 

 

การรักษาและดูแลหลังเป็นไข้หวัดใหญ่

  • นอนหลับพักผ่อนมาก ๆ
  • ดื่มน้ำ น้ำเกลือแร่ หรือน้ำผลไม้และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  • รักษาตามอาการ เช่น เช็ดตัวลดไข้ รับประทานยาลดไข้
  • ในรายที่มีอาการรุนแรง อาการไม่ดีขึ้นหลังรักษาตามอาการ หรือผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ควรเข้าพบแพทย์ เพื่อพิจารณาให้ยาต้านไวรัสโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งผลการรักษาจะดีที่สุดเมื่อได้ยาใน 48 ชั่วโมงแรก

 

 

วิธีป้องกันตนเองจากไข้หวัดใหญ่

  • ล้างมือให้บ่อยด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล
  • ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น หลอดดูดน้ำ ช้อน
  • ไม่ควรคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หากจำเป็นควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกันการติดเชื้อ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์  นอนหลับให้เพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • เข้าพบแพทย์เพื่อรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่

 

 

ไข้หวัดใหญ่ไข้หวัดใหญ่ไข้หวัดใหญ่

 

 

วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่

     วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza Vaccine) เป็นการป้องกันไข้หวัดใหญ่ซึ่งฉีดได้กับทุกคนที่มีอายุมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรงควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกราย เมื่อได้รับวัคซีนจะสามารถป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ร้อยละ 50 - 95 ซึ่งภูมิคุ้มกันโรคจะอยู่ได้นานราว 1 ปี ดังนั้นจึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี ปีละ 1 เข็ม

 

 

เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่หากเกิดในเด็กหรือผู้สูงอายุจะมีความรุนแรงมากเนื่องจากภูมิคุ้มกันโรคต่ำทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ในบางรายอาจรุนเเรงถึงขั้นเสียชีวิต ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน

แก้ไขล่าสุด 08/10/64