เช็กให้กระจ่าง อาการแบบไหนที่ควรต้องเข้ารับการผ่าตัดไซนัส

September 19 / 2024

 

ผ่าตัดไซนัส

 

 

เคยรู้สึกปวดหัวเรื้อรัง น้ำมูกไหลไม่หยุด หรือมีอาการคัดจมูกเรื้อรังจนรบกวนชีวิตประจำวันไหม อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคไซนัสอักเสบ วิธีการรักษาไซนัสมีอยู่มากมาย ในบางกรณี การผ่าตัดอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการรักษา แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่ควรเข้ารับการผ่าตัดไซนัส มาไขข้อข้องใจไปพร้อมกัน เพื่อให้คุณเข้าใจถึงอาการที่บ่งบอกว่าคุณควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ วันนี้จึงจะมาแนะนำให้เห็นว่าอาการแบบไหนที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดแน่ ๆ บ้าง และมีวิธีการผ่าตัดอย่างไร รวมถึงทำไมเราถึงควรเลือกการผ่าตัดแบบกล้องเอ็นโดสโคป

เมื่อใดที่เราต้องรักษาไซนัสโดยการผ่าตัด

รักษาไซนัสโดยการผ่าตัด ก็ต่อเมื่อเกิดปัจจัยดังนี้

เมื่อเป็นเรื้อรังและรักษาด้วยวิธีอื่นไม่หาย

เมื่อเป็นเรื้อรังและรักษาด้วยวิธีอื่นไม่หาย หากผู้ป่วยมีอาการไซนัสอักเสบเรื้อรังหรือเฉียบพลันที่รักษาด้วยยาไม่หาย เช่น ริดสีดวงจมูกที่รักษาด้วยยานาน 1-3 เดือนแล้วไม่ได้ผล การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

เมื่อมีโรคแทรกซ้อน

เมื่อมีโรคแทรกซ้อน การผ่าตัดจำเป็นในกรณีที่การติดเชื้อไซนัสลุกลามเข้าสู่ดวงตาหรือสมอง หรือเมื่อแพทย์สงสัยว่าเป็นเนื้องอกหรือไซนัสอักเสบจากเชื้อรา

เมื่อสงสัยว่าเป็นเนื้องอก

เมื่อสงสัยว่าเป็นเนื้องอก หากแพทย์สงสัยว่ามีเนื้องอกในไซนัส การผ่าตัดจะเป็นทางเลือกในการรักษาเพื่อตรวจสอบและกำจัดเนื้องอก

เมื่อเป็นไซนัสอักเสบจากเชื้อรา

เมื่อเป็นไซนัสอักเสบจากเชื้อรา ด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดที่ก้าวหน้า การใช้กล้องเอ็นโดสโคปในการผ่าตัดสามารถแก้ไขการอุดตันของรูไซนัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ และไม่ทำให้เกิดแผลขนาดใหญ่ที่ใบหน้า

ประเภทของการผ่าตัดรักษาไซนัส

ประเภทของการผ่าตัดรักษาไซนัส ปัจจุบันเทคโนโลยีการผ่าตัดได้พัฒนาไปมาก โดยการใช้กล้องเอ็นโดสโคป (Full House FESS) ส่องผ่านจมูกเพื่อเปิดโพรงไซนัสและแก้ไขการอุดตันของรูระบายไซนัส

  • การผ่าตัดโดยใช้บอลลูนขยาย : เป็นวิธีการขยายรูระบายไซนัสโดยใช้บอลลูน ช่วยลดการอุดตันและเพิ่มการไหลเวียนของอากาศในไซนัส โดยไม่ต้องมีการผ่าตัดใหญ่
  • การผ่าตัดรักษาไซนัสผ่านกล้องเอ็นโดสโคป (FESS และ Full House FESS) : เป็นการผ่าตัดที่ใช้กล้องเอ็นโดสโคปส่องเข้าทางจมูกเพื่อเปิดโพรงไซนัสทั้งหมด ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นบริเวณที่ผ่าตัดได้อย่างชัดเจน วิธีนี้ช่วยขจัดมูกและหนองที่ขังอยู่ เพิ่มการไหลเวียนของอากาศ และพ่นยารักษาได้อย่างทั่วถึง ลดภาวะแทรกซ้อน เลือดออกน้อย ฟื้นตัวเร็ว และไม่มีแผลผ่าตัดภายนอก

 

ผ่าตัดไซนัสผ่านกล้องเอ็นโดสโคป

 

 

เหตุผลที่ควรเลือกการผ่าตัดผ่านกล้องเอ็นโดสโคป

 

เหตุผลที่ควรเลือกการผ่าตัดผ่านกล้องเอ็นโดสโคป มีดังนี้

ประสิทธิภาพในการรักษา

การผ่าตัดไซนัสผ่านกล้องเอ็นโดสโคป (Functional Endoscopic Sinus Surgery หรือ Full House FESS) ช่วยให้แพทย์สามารถเปิดโพรงไซนัสและขจัดมูกเหนียวและหนองที่อุดตันอยู่ภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การรักษาได้ผลดี ลดการอักเสบ และช่วยให้อาการไซนัสอักเสบเรื้อรังดีขึ้นอย่างตรงจุด

ลดความเสี่ยงและการบาดเจ็บ

เนื่องจากการผ่าตัดใช้รูจมูกเป็นทางเข้า ทำให้ไม่มีแผลภายนอก การบาดเจ็บน้อยลง และมีโอกาสหายขาดสูงกว่าการรักษาด้วยวิธีดั้งเดิม นอกจากนี้ การผ่าตัดด้วยกล้องเอ็นโดสโคปยังช่วยลดการเสียเลือด และไม่จำเป็นต้องใส่วัสดุห้ามเลือดในจมูกหลังการผ่าตัด

ความปลอดภัยและความแม่นยำสูง

กล้องเอ็นโดสโคปมีความละเอียดสูง ช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นรอยโรคและบริเวณที่ทำการผ่าตัดได้ชัดเจนมากขึ้น ส่งผลให้การรักษาเป็นไปอย่างตรงจุด ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การบาดเจ็บต่ออวัยวะใกล้เคียงอย่างตาและสมอง

เปรียบเทียบกับการผ่าตัดแบบดั้งเดิม

เมื่อเทียบกับการผ่าตัดรักษาไซนัสแบบดั้งเดิม การใช้กล้องเอ็นโดสโคปทำให้การรักษาโรคไซนัสมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ เนื่องจากแพทย์สามารถเพิ่มการไหลเวียนของอากาศในโพรงไซนัสได้ดีขึ้น

ข้อควรปฏิบัติหลังการผ่าตัดรักษาไซนัส

หลังการผ่าตัดรักษาไซนัส การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แผลหายเร็วและลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน แพทย์จะใส่วัสดุห้ามเลือดในโพรงไซนัส ซึ่งผู้ป่วยยังสามารถหายใจทางจมูกได้ แต่ในช่วง 1-2 วันแรก อาจมีเลือดไหลออกมาเมื่อทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น การลุกนั่งหรือการก้ม เลือดที่ออกมามักเป็นเลือดเก่าผสมกับน้ำยาที่ใช้ล้างในโพรงไซนัส ซึ่งไม่ต้องกังวลเกินไป

 

เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและช่วยให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรง ๆ การแคะหรือกระทบกระเทือนบริเวณจมูก รวมถึงการไอแรง ๆ หรือการออกแรงต่าง ๆ เช่น การยกของหนัก นอกจากนี้ ไม่จำเป็นต้องล้างจมูกเอง เพราะแพทย์จะให้ยาพ่นเพื่อทำความสะอาดแผลในโพรงไซนัสแทน

 

 

การปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการผ่าตัดจะช่วยให้การรักษาประสบความสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น ผู้ป่วยควรเข้ารับการตรวจติดตามผลการรักษากับแพทย์ตามนัดหมายอย่างเคร่งครัด

 

 

นอกจากนี้ การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อช่วยให้แผลหายเร็วและป้องกันภาวะแทรกซ้อน คำแนะนำสำคัญมีดังนี้

 

 

  1. นอนศีรษะสูง :ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการผ่าตัด ควรนอนศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวมและเลือดออก ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
  2. หลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรง ๆ :การสั่งน้ำมูกแรง ๆ หรือแคะจมูกอาจทำให้เกิดความดันในบริเวณรอบดวงตาและอาจทำให้การมองเห็นเบลอได้ ควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้
  3. จิบน้ำบ่อย ๆ :การจิบน้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้น้ำมูกในโพรงจมูกอ่อนตัวลง ทำให้กำจัดออกได้ง่ายขึ้น ควรดื่มน้ำอุณหภูมิห้องและหลีกเลี่ยงน้ำเย็นจัดหรือน้ำอุ่นจัด
  4. พบแพทย์ตามนัด :ควรพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งเพื่อให้แพทย์ติดตามอาการอย่างต่อเนื่องและให้คำแนะนำในการดูแลรักษาแผลจนกว่าจะหายดี

 

 

ทีมแพทย์ รามคำแหง

 

 

ผ่าตัดรักษาไซนัสอย่างปลอดภัย ที่โรงพยาบาลรามคำแหง

 

โรงพยาบาลรามคำแหงมีทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในแผนกหู คอ จมูก ที่พร้อมให้บริการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยและได้รับมาตรฐาน การผ่าตัดไซนัสผ่านกล้องแบบไร้แผลภายนอกของเรามุ่งเน้นคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด ทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติหลังการผ่าตัด มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรา