เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้
เราใช้ Cookies เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด สรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและ Cookies อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Policy)
บริษัท โรงพยาบาลรามคําแหง จํากัด (มหาชน)
โรงพยาบาลรามคำแหง (“โรงพยาบาล”) ได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ที่ท่านให้โรงพยาบาลใน ระหว่างการร้องขอการบริการ การเยี่ยมชมเว็บไซต์
หรือใช้แอพพลิเคชั่นของหรือจากโรงพยาบาล นโยบาย คุ้มครองข้อมูลส่วน
บุคคลนี้รวมถึงข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับตัวคุณโดยเป็นการส่งต่อมาจากบุคคลที่สาม
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง “ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือ ทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ”
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
1. โรงพยาบาลเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่าน ที่สามารถระบุตัวตนได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อประโยชน์ต่อท่านในระยะเวลาที่เหมาะสมจำเป็นต่อการให้บริการ ในกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูล กับโรงพยาบาล หรือร้องขอการบริการจากโรงพยาบาลผ่านช่องทางเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นหรือ ช่องทางอื่นใดของโรงพยาบาล อาทิเช่น การนัดหมายแพทย์ การทำธุรกรรมแบบออนไลน์ การสมัครรับจดหมายข่าว การขอรับความช่วยเหลือพิเศษ รวมไปถึงการทำธุรกรรมแบบออฟไลน์ เช่น การลงทะเบียนผู้ป่วยที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนของโรงพยาบาล หรือจากความสมัครใจ ของท่านใน การทำแบบสอบถาม (Survey) หรือการโต้ตอบทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) หรือการกรอก ให้ข้อมูลประกอบการสมัครงาน หรือช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ระหว่างโรงพยาบาล และท่าน
2. โรงพยาบาลอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม เช่นธุรกิจในเครือข่าย ตัวแทน จำหน่าย หรือผู้ให้บริการของโรงพยาบาล หน่วยงานภาครัฐ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวม
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวมจากท่านจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของการเก็บรวบรวม และประเภทของการบริการที่ท่านร้องขอจากโรงพยาบาล ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกนำมาใช้เพื่อให้การทำธุรกรรมออนไลน์หรือออฟไลน์ หรือบริการที่ได้รับการร้องขอเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวมโดยตรงจากท่าน หรือจากบุคคลที่สาม มีดังนี้
1) ข้อมูลระบุตัวตน เช่น ชื่อ ภาพถ่าย เพศ วัน เดือน ปีเกิด หนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรประชาชน หรือหมายเลขที่สามารถระบุตัวตนอื่นๆ
2) ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมลล์
3) ข้อมูลการชำระเงิน เช่น ข้อมูลการเรียกเก็บเงิน ข้อมูลบัตรเครดิตหรือเดบิต และ รายละเอียดบัญชี ธนาคาร
4) ข้อมูลการเข้ารับบริการ เช่น ข้อมูลการนัดหมายแพทย์ ข้อมูลส่วนบุคคลของญาติ ความต้องการ เกี่ยวกับห้องพัก อาหาร และบริการเสริมอื่นๆ
5) ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด เช่น ข้อมูลการลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรมกับเรา
6) ข้อมูลสถิติ เช่น จำนวนผู้ป่วย และการเข้าชมเว็บไซต์
7) ข้อมูลจากการเข้าใช้เว็บไซต์ของโรงพยาบาล
8) ข้อมูลด้านสุขภาพ รายงานที่เกี่ยวกับสุขภาพกาย และสุขภาพจิต การดูแลสุขภาพของท่าน ผลการทดสอบจากห้องทดลอง ห้องปฏิบัติการ และการวินิจฉัย
9) ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาและการแพ้ยาของท่าน
10) ข้อมูล Feedback และผลการรักษาที่ท่านให้ไว้
เราจะไม่เก็บและใช้ข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนของคุณ เช่น เชื้อชาติ ความเชื่อทางศาสนา ประวัติอาชญากร เว้นแต่เป็นไปตามที่ข้อบังคับและกฎหมายกำหนด หรือโดยความยินยอมของท่าน
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1) จัดหาบริการ หรือส่งมอบบริการของโรงพยาบาล
2) นัดหมายแพทย์ ส่งข่าวสาร แนะนำบริการของโรงพยาบาล
3) การประสานงานและส่งต่อข้อมูลซึ่งจะช่วยให้การส่งต่อผู้ป่วยมีความรวดเร็วขึ้น
4) การยืนยันตัวตนของผู้ป่วย
5) ส่งข้อความแจ้งเตือนการนัดหมายแพทย์ หรือการเสนอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาล
6) อำนวยความสะดวกและนำเสนอรายการสิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่ท่าน
7) จุดประสงค์ด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย และการลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การส่งข้อมูลเกี่ยวกับ โปรโมชั่น ผลิตภัณฑ์และบริการ รายการส่งเสริมการขาย และธุรกิจพันธมิตร
8) เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสาร ตอบค าถาม หรือตอบสนองข้อร้องเรียน
9) สำรวจความพึงพอใจของลูกค้า วิจัยตลาด วิเคราะห์ทางสถิติประมวลผลและแสดงผลเพื่อเป็น ข้อมูลในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ให้แก่ผู้ใช้บริการได้รับประโยชน์ยิ่งขึ้น
10) วัตถุประสงค์ทางบัญชีหรือทางการเงิน เช่นการตรวจสอบการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต การเรียกเก็บเงินและการตรวจสอบความถูกต้อง การขอคืนเงิน
11) รักษาความปลอดภัย รวมถึงความปลอดภัยขณะพักรักษาอยู่ในโรงพยาบาล
12) เพื่อวัตถุประสงค์ในการสมัครงาน การเป็นพนักงาน หรือวัตถุประสงค์อื่นใดที่เกี่ยวข้อง
13) ปฏิบัติตามกฎของโรงพยาบาล
14) ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนด ระเบียบ ข้อบังคับ หรือการร้องขอใดๆจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียกพยาน หรือคำสั่งศาล หรือการร้องขออื่นๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
15) วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่สนับสนุนการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น หรือที่ได้รับความยินยอมจาก ท่านเป็นครั้งคราว
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลอาจเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สาม ซึ่งอาจตั้งอยู่ภายในหรือ นอกราชอาณาจักร โดยโรงพยาบาลจะดำเนินตามมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสม หรือเป็นไปตามข้อบังคับและ กฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ที่ตามระบุไว้ข้างต้น ให้แก่
1) พันธมิตรทางธุรกิจ เช่น บริษัทประกัน พันธมิตรที่เข้าร่วมรายการโปรแกรมสะสมคะแนน และสิทธิ ประโยชน์และศูนย์การแพทย์ และหรือบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการให้บริการ
2) ธนาคาร และผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต หรือเดบิต
3) เจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงและความปลอดภัย
4) หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานศุลกากร
5) หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้
การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์บุคคลที่สาม เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบนมือถือของโรงพยาบาล อาจมีลิงก์เชื่อมไปยังเว็บไซต์บุคคลที่สาม หากท่านไปตาม ลิงก์เหล่านี้ นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ไม่มีผลกับเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม โปรดทราบว่าโรงพยาบาลไม่ สามารถรับผิดชอบใดๆ ต่อการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบุคคลที่สามดังกล่าว เนื่องจากอยู่นอกการ ควบคุมของโรงพยาบาล
การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล และความปลอดภัย
1. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูก เก็บรักษาไว้นานเท่าที่จำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ตามที่อธิบาย ไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย หรือเพื่อการดำเนินการทาง กฎหมาย
2. โรงพยาบาลจะใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย และการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อ ป้องกันและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวม
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
1. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent) : ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความ ยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับโรงพยาบาลได้ ตลอดระยะเวลาที่ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับโรงพยาบาล
2. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access) : ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและ ขอให้โรงพยาบาลทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้โรงพยาบาลเปิดเผยการได้มาซึ่ง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อโรงพยาบาลได้
3. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification) : ท่านมีสิทธิในการขอให้โรงพยาบาล แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
4. สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure) : ท่านมีสิทธิในการขอให้โรงพยาบาลท าการลบข้อมูล ของท่านด้วยเหตุบางประการได้
5. สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing) : ท่านมีสิทธิในการระงับการ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
6. สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability) : ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วน บุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับโรงพยาบาลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้
7. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object) : ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
ท่านสามารถร้องขอการเข้าถึงหรือขอให้อัพเดตและแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงสิทธิอื่นใดข้างต้น หรือสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ เช่น ขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้ระงับการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรณีเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้เกิน ขอบเขตวัตถุประสงค์การใช้งานที่แจ้งให้ทราบข้างต้น หรือไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน
การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโรงพยาบาลจะแจ้ง ให้ท่านทราบด้วยการ อัพเดตข้อมูลลงในเว็บไซต์ของโรงพยาบาล https://www.ram-hosp.co.th/contactus โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้หากท่านมีคำถาม ข้อเสนอแนะ และข้อร้องเรียนเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโปรดติดต่อได้ที่อีเมลล์ support@ram-hosp.co.th
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 01 มิถุนายน 2565
(นพ.พิชญ สมบูรณสิน)
กรรมการบริหาร
บริษัท โรงพยาบาลรามคําแหง จํากัด (มหาชน)
ในบทความที่แล้ว เราได้พูดคุยกันถึงแผลที่เกิดจากโรคเบาหวาน ว่าสิ่งนี้คืออะไรและอันตรายอย่างไร ทำให้เราได้รู้ว่าภาวะแทรกซ้อนนี้ อาจสร้างผลกระทบรุนแรงต่อผู้ป่วยเบาหวานไม่น้อยเลย ยิ่งถ้าไม่ใส่ใจดูแลรักษาให้ดี อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียอวัยวะ จากความจำเป็นที่จะต้องตัดขาเพื่อป้องกันการติดเชื้อลุกลามได้ เพื่อป้องกันผลกระทบเหล่านั้นอย่างทันท่วงที ในบทความนี้เราจะมาเผยวิธีสังเกตอาการ รวมถึงแนวทางการป้องกันและสถานที่ที่พร้อมให้การรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ทุกท่านได้เบาใจและคลายกังวล
วิธีสังเกตแผลเบาหวานนั้นไม่ยาก แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยเบาหวานมักไม่รู้ตัวเมื่อเกิดแผลแบบนี้ขึ้น โดยเฉพาะบริเวณเท้า กว่าจะรู้ตัว แผลก็เกิดการอักเสบหรือมีหนองไหลออกมาจากแผล ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานจึงควรหมั่นสังเกตร่างกาย และอาการผิดปกติต่าง ๆ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจนำมาซึ่งการสูญเสียอวัยวะ โดยสามารถสังเกตได้จากอาการต่าง ๆ อาทิ
สีผิวเปลี่ยนไปโดยเฉพาะบริเวณนิ้วเท้า หรือปลายเท้า อาจมีสีคล้ำขึ้น เนื่องจากการอุดตันของหลอดเลือด
ขนน้อยลง โดยสามารถสังเกตได้จากขนที่แขน นิ้วเท้า หรือหน้าแข้ง โดยสาเหตุของขนที่ขึ้นน้อยลงนี้ เนื่องมาจากไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงให้เส้นขนเจริญเติบโต
มีอาการคันโดยที่ไม่มีรอยโรค ซึ่งสืบเนื่องมาจากผู้ป่วยเบาหวานมักมีผิวแห้ง ในบางรายอาจพบว่าเล็บหนาขึ้นและแตก ซึ่งหากปล่อยไว้อาจเกิดบาดแผลจากการกดทับ หรือเล็บขบได้
รู้สึกชา หรือแสบร้อนบริเวณปลายมือหรือปลายเท้า บางครั้งอาจจะพบว่ามีอุณหภูมิสูงกว่าบริเวณอื่น ๆ อาจรู้สึกปวดร้อน หรือมีอาการบวม เนื่องจากการคั่งของของเหลวซึ่งเกิดจากการที่ระบบไหลเวียนเลือดทำหน้าที่ได้ลดลง
มีน้ำหนองไหลออกมาจากแผล ในช่วงแรกผู้ป่วยอาจไม่รู้ตัวว่าแผลเริ่มมีหนอง แต่สามารถสังเกตได้จากของเหลวที่มีกลิ่นผิดปกติไหลออกมาจากผิวหนัง ซึ่งหากผู้ป่วยพบว่าเริ่มมีน้ำหนองไหล ควรรีบเข้าพบแพทย์ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดเนื้อตายหรือการสูญเสียอวัยวะ
รับประทานอะไร ช่วยไม่ให้แผลจากโรคเบาหวานลุกลาม ผู้ป่วยเบาหวานควรเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และมีความหลากหลายทางโภชนาการ โดยเน้นรับประทานผักผลไม้ที่มีแป้งต่ำ และเลือกรับประทานโปรตีน และคาร์โบไฮเดรตชนิดที่มีใยอาหารสูง เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในอยู่ในเกณฑ์ปกติ ทั้งนี้ อาหารที่แพทย์มักแนะนำให้ผู้ป่วยเลือกรับประทาน ได้แก่
ผักใบเขียวมีประโยชน์ในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลให้คงที่ และชะลอการดูดซึมกลูโคสให้ช้าลง และยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคที่ผู้ป่วยเบาหวานมักมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป ได้แก่ โรคหลอดเลือดในสมอง โรคหัวใจ ภาวะความดันโลหิตสูงและมะเร็งบางชนิด
เนื้อปลาเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยเบาหวานควรรับประทานอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 มื้อ สามารถรับประทานได้ทั้งปลาน้ำจืดและปลาทะเล เนื่องจากเป็นอาหารที่มีไขมันต่ำ ย่อยง่าย ถือเป็นโปรตีนคุณภาพดี และเป็นแหล่งของโอเมก้า 3 ซึ่งมีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพหัวใจของผู้ป่วย
ธัญพืชเต็มเมล็ด รวมถึงธัญพืชไม่ขัดสี ได้แก่ ข้าวบาร์เลย์ ข้าวกล้อง ควินัว และข้าวโอ๊ต ซึ่งมีเส้นใยอาหาร สารอาหารต่าง ๆ และสารพฤกษเคมีที่สามารถช่วยในการชะลอการดูดซึมอาหาร ส่งเสริมให้ร่างกายมีความไวต่ออินซูลิน และมีกระบวนการเผาผลาญน้ำตาลที่มากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถป้องกันไม่ให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงได้อีกด้วย
ผลไม้ตระกูลเบอร์รีเป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลต่ำ ใยอาหารสูง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จากการศึกษาพบว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รี่นั้นไม่เพียงแต่จะสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แต่ยังมีส่วนช่วยจำกัดกลูโคสเช่นกัน
อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำแม้จะอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งนอกจากจะอัดแน่นด้วยคุณค่าสารอาหารอื่น ๆ แล้ว เมื่อผู้ป่วยเบาหวานรับประทานไปจะทำให้รู้สึกอิ่มนาน และสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี โดยปริมาณที่แนะนำสำหรับผู้ป่วยเบาหวานคือควรทานวันละครึ่งลูก
ชาเขียวมีส่วนช่วยในการลดการดูดซึมกลูโคสระหว่างการย่อยอาหารในลำไส้เล็ก และยังมีส่วนช่วยควบคุมไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เพิ่มสูงขึ้นมากเกินไปหลังมื้ออาหาร การดื่มชาเชียวในผู้ป่วยเบาหวาน นับเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากชาเขียวไม่มีแคลอรีและน้ำตาล แต่ควรระมัดระวังปริมาณคาเฟอีนจากการดื่มมากเกินไป
ข้าวกล้องเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน มีใยอาหารสูง และจัดเป็นข้าวที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าข้าวขาว เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากสามารถช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดได้
รักษาแผลจากโรคเบาหวาน ที่โรงพยาบาลรามคำแหง หากพบว่ามีแผลอักเสบเรื้อรังที่เท้า อย่าได้นิ่งนอนใจเพราะนั่นอาจนำมาซึ่งความสูญเสีย รีบเข้าพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจรักษาโดยละเอียด โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ที่ศูนย์รักษาแผลเบาหวาน โรงพยาบาลรามคำแหง
การหมั่นสังเกตตัวเองและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ คือ กุญแจสำคัญที่จะช่วยป้องกันผู้ป่วยเบาหวานจากภาวะแทรกซ้อนแสนน่ากลัว แต่อย่างไรก็ดี อย่าลืมตรวจเช็กสุขภาพและอาการของโรคอย่างต่อเนื่องกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คิดไม่ฝันอย่างแน่นอน
โรงพยาบาลรามคำแหง
436 ถ. รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
1512, 02-743-9999
แฟกซ์ 0 2374 0804
support@ram-hosp.co.th