โรคเบาหวานนั้นอันตราย หากปล่อยไว้นานยิ่งเป็นภัยเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ

December 02 / 2024

 

 

 

เบาหวาน อันตราย

เป็นภัยต่อหลอดเลือดหัวใจ

 

 

 

 

     เบาหวาน นอกจากจะเป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพและทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนแล้ว ยังทำให้เกิดปัญหาในช่องปากได้เช่นกัน 8 ใน 10 คนของผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 (เบาหวานชนิดที่ 2 คือ ชนิดไม่ต้องพึ่งอินซูลิน (NIDDM) มักเกิดโรคหัวใจแทรกซ้อนอย่างโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

 

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ    

     โรคเลือดหัวใจตีบตัน (CAD: Coronary Artery Disease) เป็นโรคที่รู้จักกันดี และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับแรก ๆของประเทศไทย อย่างที่เราทราบกันอยู่แล้วว่า โรคนี้มีสาเหตุหรือความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ภาวะไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ ภาวะอ้วน กรรมพันธุ์ อายุที่มากขึ้น รวมถึงการขาดการออกกำลังกาย


 

ป่วยเป็นเบาหวาน เสี่ยงสูงเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ

     จากการวิจัยพบว่าผู้ป่วยเบาหวานมีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจรุนแรงกว่าคนทั่วไปตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อเป็นโรคแล้วก็มีโอกาสเสียชีวิตสูงถึง 2 - 4 เท่าและพยากรณ์โรคเลวร้ายกว่า โดยเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 

 

 


การป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนทางหัวใจเป็นสิ่งจำเป็น หากศึกษาหาความรู้เรื่องโรคควบคู่กับดูแลตนเองอย่างถูกต้อง ก็มีหวังที่ผู้ป่วยจะสามารถใช้ชีวิตได้ไกล้เคียงกับคนปรกติ


 

 

 

เบาหวาน : สาเหตุแห่งโรคหลอดเลือดหัวใจ

     มีการศึกษาทางการแพทย์ยืนยันว่า ระดับน้ำตาลในเลือดที่เพิ่มขึ้น (ไม่ว่าจะเกินค่าปกติเล็กน้อยหรืออยู่ในเกณฑ์เบาหวาน) มีความสัมพันธ์ที่จะทำให้มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจสูงขึ้น และมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้นส่งผลทำให้หลอดเลือดมีโครงสร้างและหน้าที่ที่ผิดปกติไป หลอดเลือดต่างๆ ทีไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจเกิดอักเสบ มีโอกาสตีบตันหรือแตกออกเป็นลิ่มอุดตันอย่างเฉียบพลันได้ นี่จึงเป็นสาเหตุผลว่าทำไมผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงเป็นโรคหัวใจได้มากกว่า เร็วกว่าหรือรุนแรงกว่าคนทั่วไป

 

 

 

เบาหวาน หัวใจตีบ    เบาหวาน หัวใจตีบ

 

 

อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้ป่วยโรคเบาหวาน

อาการเจ็บหน้าอกของโรคหลอดเลือดหัวใจในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานมักไม่ชัดเจนหรือไม่มี เนื่องจากมักมีปัญหาปลายประสาทรับความรู้สึกเสื่อมสภาพร่วมด้วย ทำให้วินิจฉัยโรคได้ยากกว่าปกติและยังมีอาการอื่นที่ทำให้สงสัยว่าเป็นโรคหัวใจ ได้แก่

 

  • อาการแน่น อึดอัด บริเวณกลางหน้าอก หน้าอกข้างซ้ายหรือลิ้นปี่ คล้ายอาการจุกเสียดอาหารไม่ย่อย
  • อาการปวดร้าวท้องแขนด้านใน
  • หน้ามืด วิงเวียน
  • เหงื่อออก ตัวเย็น ใจสั่น
  • จะเป็นลม หรือหมดสติ

 

 

เบาหวาน หัวใจตีบ

 

 

 

 

การวินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้ป่วยโรคเบาหวาน

1.  การตรวจหาภาวะหลอดเลือดแดงอุดตัน

     ABI, PWV (Pulse Wave Velocity) และ Toe-Brachaial Index หรือ TBI เป็นเทคโนโลยีที่รับความไว้วางใจจากวงการแพทย์สำหรับตรวจเช็คการอุดตันของหลอดเลือดแดงและความยืดหยุ่นของหลอดเลือดพร้อมกันทุกจุดของร่างกาย ระหว่างตรวจจะบอกได้คร่าวได้ว่า ผู้ป่วยมีภาวะใดซ่อนอยู่ เช่น หลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง  โดยเฉพาะในรายที่มีอาการไม่แน่ชัด ไม่มีอาการ ผู้เป็นโรคเบาหวานหรือมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ 

 

2.  การตรวจด้วยเครื่อง CT Scan

     CT Scan เป็นเทคโนโลยีทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ทราบพยาธิสภาพของหลอดเลือดหัวใจตั้งแต่เนิ่น ซึ่งใช้เวลาตรวจน้อย เห็นภาพละเอียดชัดและครอบคลุมบริเวณที่ตรวจได้มากขึ้น เช่น

 

  • ตรวจวัดปริมาณแคลเซี่ยมที่ผนังหลอดเลือดหัวใจฮันเป็นปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้แม่นยำ
  • ผู้ป่วยกลับบ้านได้หลังตรวจเสร็จ ไม่เจ็บตัว และราคาไม่สูงเท่ากับการฉีดสีสวนหัวใจ
  • กรณีตรวจพบความผิดปกติ แพทย์อาจให้ผู้ป่วยเข้ารับการตรวจอื่นเพิ่ม เช่น การเดินสายพาน การตรวจเอ็กโค่หัวใจร่วมเพื่อแปลผลตรวจได้แม่นยำขึ้น

 

 

 


กรณีตรวจแล้วปกติแสดงว่าหัวใจยังอยู่ในสภาพดี 97-100% ซึ่งแทบไม่ต้องตรวจด้วยวิธีพิเศษอื่นเลย


 

 

 

เบาหวาน หัวใจตีบ

 

 

แนวทางป้องกันโรคแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ และการแก้ใขภาวะผิดปกติที่พบร่วมกับเบาหวาน เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ความอ้วนและอื่น

 

  • ควบคุมปริมาณและชนิดของอาหารในแต่ละวัน
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ (ครั้งละ 20-30 นาที)
  • ลดน้ำหนักและควบคุมน้ำหนักให้เป็นปกติ และงดสูบบุหรี่
  • ตรวจรักษากับแพทย์อย่างสม่ำเสมอในรายที่ต้องใช้ยารักษาระดับน้ำตาล ยาลดความดัน ยาลดระดับไขมัน และยารักษาโรคแทรกซ้อนทางหลอดเลือดหัวใจ

 

 

การรักษาโรคแทรกซ้อนทางหัวใจจากเบาหวาน เช่น การผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ การใส่สายสวนขยายหลอดเลือดหัวใจ ถ้าปล่อยให้โรคเบาหวานเป็นมาก อาจทำให้ทุพพลภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ สูญเสียคุณภาพชีวิต