ทำความรู้จักกับโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม โรคยอดฮิตในปัจจุบัน

February 14 / 2024

 

หมอนรองกระดูกเสื่อม

 

 

ในปัจจุบัน หมอนรองกระดูกเสื่อม ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งโรคฮิตที่พบได้ทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มหนุ่มสาวยุคใหม่ที่ต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งบางคนใช้เวลามากถึง 8-12 ชั่วโมงต่อวัน และส่วนใหญ่ อาจนั่งผิดท่า และก้ม ๆ เงย ๆ ดูหน้าจอมือถือโดยไม่มีการยืด หรือหยุดพัก พฤติกรรมเหล่านี้ ย่อมส่งผลให้หมอนรองกระดูกต้องทำงานหนักขึ้น เกิดเป็นอาการปวดหลังเรื้อรัง และนำไปสู่ภาวะหมอนรองกระดูกเสื่อม กลายเป็นปัญหาสุขภาพที่ไม่ได้จำกัดแค่ในกลุ่มผู้สูงอายุเหมือนในอดีต แต่พบในคนวัยทำงานที่อายุน้อยลงเรื่อย ๆ กว่าเมื่อก่อนมาก

 

 

หมอนรองกระดูกเสื่อม สาเหตุ

 

 

4 สาเหตุหลักของโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม

ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเกิดโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม มีดังนี้

อายุ

อายุเป็นสาเหตุสำคัญอันดับหนึ่งในการเกิดภาวะหมอนรองกระดูกเสื่อม ถือเป็นภาวะที่เกิดจากการเสื่อมของร่างกายตามอายุ ซึ่งควบคุมได้ยากกว่าปัจจัยด้านอื่น ๆ

การใช้งาน

การใช้งานร่างกายผิดท่าเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะบริเวณที่กระทบต่อกระดูกสันหลัง เช่น การยกของหนัก การนั่งนาน ๆ โดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ หรือการขับรถทางไกลบ่อย ๆ ล้วนส่งผลให้หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมเร็วกว่าปกติ

พฤติกรรมเสี่ยง

เช่น การสูบบุหรี่ มีผลทำให้คอลลาเจนในหมอนรองกระดูก เกิดการเสื่อมสภาพและเลือดไปเลี้ยงบริเวณหมอนรองกระดูกได้น้อยลง เมื่อสารอาหารไปหล่อเลี้ยงบริเวณนั้นได้น้อย กระดูกจึงเกิดการเสื่อมสภาพเร็วกว่าวัยอันควร

พันธุกรรม

ในแต่ละคนอาจมีโครงสร้างที่ไม่เท่ากัน ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสื่อมเร็ว และอาจเกิดการทรุดตัวของกระดูกได้ง่าย ถึงแม้ว่าจะยังมีอายุน้อยอยู่

 

 

รักษาหมอนรองกระดูกเสื่อม

 

 

รักษาภาวะหมอนรองกระดูกเสื่อมเบื้องต้นอย่างไรโดยไม่ต้องผ่าตัด?

การรักษาภาวะหมอนรองกระดูกเสื่อมในเบื้องต้น หากแพทย์พิจารณาแล้วว่าอาการของผู้ป่วยยังไม่รุนแรง และยังไม่มีอาการกดทับของเส้นประสาท แพทย์อาจแนะนำวิธีการรักษาแบบประคับประคอง โดยมุ่งเน้นการบรรเทาอาการต่าง ๆ ดังนี้

การทานยา

การทานยา ได้แก่ ยาแก้ปวด ยาลดการอักเสบ และยาคลายกล้ามเนื้อ

การทำกายภาพบำบัด

การทำกายภาพบำบัด เช่น การดึงหลัง หรือการใส่เสื้อหรือเข็มขัดพยุงหลังต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 2-3 เดือน อาจช่วยลดอาการปวด และทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อนกลับเข้าที่ได้ ในกรณีที่ไม่เป็นมาก

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ได้แก่ หลีกเลี่ยงการนั่งนาน ๆ โดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ หรือการก้ม ๆ เงย ๆ ดูหน้าจอโทรศัพท์ติดต่อกันเป็นเวลานาน รวมถึงหลีกเลี่ยงการยกของหนัก ยกของให้ถูกวิธี และการขับรถระยะทางไกลโดยไม่หยุดพัก เป็นต้น

การออกกำลังกาย

แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยโรคนี้เข้าร่วมโปรแกรมออกกำลังกายกับนักกายภาพบำบัดโดยตรง หรือรับคำแนะนำจากนักกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูกระดูกสันหลังอย่างถูกวิธี นอกจากนี้ ผู้ป่วยควรยืดกล้ามเนื้อในตอนเช้าเป็นประจำ และทุกครั้งก่อนการออกกำลังกาย การออกกำลังเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว สามารถช่วยลดภาระของหมอนรองกระดูกลงได้

 

 

หมอนรองกระดูก เทคโนโลยี

 

 

เทคโนโลยีการรักษาหมอนรองกระดูกเสื่อม

ในผู้ป่วยที่มีการเสื่อมของกระดูกสันหลังมาก หรือมีการกดทับของเส้นประสาท และไม่ตอบสนองต่อแนวทางการรักษาเบื้องต้น แพทย์อาจพิจารณาการรักษาโดยใช้เทคโนโลยีต่างๆ ดังนี้

การผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทด้วยกล้องเอ็นโดสโคป (Endoscope)

แพทย์จะทำการสอดกล้องเอ็นโดสโคป ซึ่งทำหน้าที่เสมือนดวงตาของศัลยแพทย์ ผ่านทางแผลผ่าตัดที่มีขนาดไม่เกิน 8 มิลลิเมตร เพื่อเลือกตัดออกเฉพาะส่วนที่ทำให้เกิดปัญหา โดยวิธีการนี้ จะแตกต่างจากการผ่าตัดด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบเดิมตรงที่แพทย์ไม่จำเป็นต้องตัดเลาะเนื้อเยื่อส่วนที่ดีออกเพื่อเปิดทาง ทำให้ลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ และลดโอกาสในการเกิดภาวะแทรกซ้อน ผู้ป่วยจึงสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

การผ่าตัดหมอนรองกระดูกด้วยคลื่นวิทยุ หรือนิวคลีโอพลาสตี (Nucleoplasty)

เป็นการรักษาโดยไม่ต้องวางยาสลบ โดยแพทย์จะทำการใช้เข็มขนาดเล็กสอดเข้าไปในหมอนรองกระดูกในส่วนที่มีปัญหาแล้วปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุ ซึ่งความร้อนที่เกิดขึ้นบริเวณปลายเข็มจะเข้าไปสลายหมอนรองกระดูกที่เกิน หรือยื่นออกมาไม่ให้กดทับเส้นประสาท ถือเป็นการรักษาที่ใช้เวลาน้อย และช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติในระยะเวลาอันสั้น ส่วนมากมักจะใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังจากหมอนรองกระดูกอักเสบ

 

 

หมอนรองกระดูกเสื่อม

 

 

ข้อควรคำนึงในการเลือกซื้อเข็มขัดพยุงหลัง

การสวมใส่เข็มขัดพยุงหลัง เพื่อช่วยพยุงกระดูกสันหลังให้อยู่ในท่าที่ถูกต้อง ถือเป็นอีกหนทางในการรักษา และบรรเทาอาการปวดหลังหรือเอวได้ดีอีกวิธีหนึ่ง ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถทำงานต่างๆ หรือลดอาการเจ็บปวดขณะนั่ง ยืน เดิน หรือยกของ ดังนั้น ก่อนการเลือกซื้อเข็มขัดพยุงหลัง ผู้ป่วยควรเกณฑ์ต่าง ๆ ดังนี้

วัสดุ

ควรเลือกเข็มขัดพยุงหลังที่ทำจากวัสดุคุณภาพดี เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นขณะสวมใส่

ขนาด

ควรเลือกเข็มขัดพยุงหลังให้เหมาะสมกับขนาดของร่างกาย สามารถสวมใส่ได้ตลอด โดยเฉพาะเวลาเคลื่อนไหวไม่ให้รู้สึกอึดอัด

คุณสมบัติ

เข็มขัดพยุงหลังที่ดีควรมีการระบายความร้อนได้ดี ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว

 

 

ศูนย์กระดูกและข้อ

 

 

ศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลรามคำแหง

สิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกัน และลดปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่ภาวะหมอนรองกระดูกเสื่อมก่อนวัย คือการหันมาดูแลสุขภาพ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อกระดูกสันหลัง รวมถึงควรออกกำลังกายสม่ำเสมอและบริหารกล้ามเนื้ออย่างถูกวิธีแต่หากพบว่ามีอาการปวดหลังเรื้อรัง หรืออาการปวดมีความรุนแรงมากขึ้น ก็ควรเข้ารับการตรวจและปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง

 

ศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลรามคำแหง มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ทันสมัยพร้อมให้บริการตรวจวินิจฉัย ดูแลรักษาความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลัง ไขสันหลัง และเส้นประสาท โดยมุ่งเน้นผลการรักษา และความปลอดภัย เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ