การทานตามอารมณ์ อาจส่งผลเสียมากกว่าที่คิด

January 16 / 2025

ทานตามอารมณ์

 

 

     การทานตามอารมณ์ (Emotional Eating) คือสาเหตุชั้นต้นที่ทำให้เราน้ำหนักเกิน โดยผู้ชำนาญการพบว่าคนส่วนใหญ่จะทานเพราะอารมณ์มากถึง 75 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะอาหารขยะที่มีแคลอรี่และน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไป หลายคนอาจชอบทานอาหารเมื่อรู้สึกเบื่อไม่มีอะไรทำ โกรธ เศร้า เหงา ฯลฯ ทั้งที่ไม่ได้มีความหิวซักนิด ซึ่งการทานกับอารมณ์นั้นมีส่วนสัมพันธ์กัน แต่จะเกี่ยวกันอย่างไร?  มาดูกันครับ...

 

การทานตามอารมณ์

     การทานตามอารมณ์ (Emotional Eating) คือการทานอาหารที่ไม่ได้เกิดจากความหิว แต่เกิดจากอารมณ์ เช่น โกรธ เบื่อ เหงา เศร้า เครียด และก็อยากทานแต่ของหวานที่มีแป้ง น้ำตาลและไขมันสูง

 


หลายคนอาจจดจ่อกับละคร ซีรีย์ร่วมทานขนมคบเคี้ยวจนหลงลืมไปว่าสิ่งที่ทานนั้นคือไขมันและพลังงานที่เกินความจำเป็นต่อร่างกาย


 

 

ทานตามอารมณ์

 

 

การทานตามอารมณ์

     อารมณ์ที่เกิดจากความเครียด ความเบื่อหน่าย หรือแม้แต่ความเหนื่อยล้า ล้วนเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดพฤติกรรมการทานตามมา หลายคนใช้วิธีทานอาหารเพื่อเติมเต็มอารมณ์ต่าง ๆ เหล่านั้น บางส่วนรู้สึกอยากทานเมื่อรู้สึกเหนื่อยล้า จึงหาเรื่องที่จะทานเพื่อเติมเต็มอารมณ์แทนการหากิจกรรมอื่น ๆ ทำก็เป็นได้

 

สาเหตุของการทานตามอารมณ์

     เมื่อไหร่ที่เราเริ่มเครียด ร่างกายจะหลั่งสารคอร์ติซอลออกมา เมื่อมีมากเกินไปก็อาจทำให้การนอนมีปัญหา มีภาวะวิตกกังวลและอยากอาหารมากกว่าปกติ เมื่อเราหายเครียด คอร์ติซอลจะลดลงสู่ระดับปกติ หากมีความเครียดสะสม ร่างกายจะหลั่งเกรลินซึ่งเป็นเปปไทด์ฮอร์โมนแห่งความหิวออกมามากขึ้น ทำให้เรารู้สึกอยากอาหารมากกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่มีรสชาติ หวาน เค็ม หรืออาหารไขมันสูง เช่น อาหารฟาสต์ฟู้ด ขนมเค้ก 

 

 


เราอาจจะไม่รู้สึกอยากอาหารใด ๆ ในช่วงเริ่มเกิดความเครียด แต่พอผ่านไปซักพักร่างกายจะเริ่มโหยหาอาหารมากขึ้น


 

 

การทานตามอารมณ์ส่งผลเสียต่อร่างกายหลายอย่าง

     การทานตามอารมณ์หรือทานเพราะเครียดนั้นสร้างปัญหาให้กับระบบเมตาบอลิซึม ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้น้อยลง แคลอรี่ที่เกินมาก็กลายไปเป็นไขมันที่พุง ช่องท้อง แขน ขา ฯลฯ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดโรคตามมาได้ เช่น ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน โรคเบาหวาน และเพิ่มโอกาสเสี่ยงเกิดโรคอันตรายร้ายแรงต่อไป

 

 

ทานตามอารมณ์

 

 

วิธีปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร

     การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารเป็นสิ่งสำคัญที่ควรรู้ โดยเริ่มต้นง่ายด้วยการตั้งสติและระลึกรู้อยู่เสมอว่าเรามีอารมณ์อย่างไร สืบหาต้นตอของความเครียดนั้นและพิจารณาเลือกอาหารที่เหมาะสม หากรู้ตัวว่าหิวบ่อย แพทย์แนะนำให้ซื้อของทานเล่นที่มีประโยชน์ เช่น ถั่วเขียวอบ ถั่วพิสตาชิโอ โยเกิร์ตไขมันต่ำ ผลไม้สด เพื่อลดความอยากอาหารลง นอกจากนี้ควรหากิจกรรมอื่นทำควบคู่ด้วย เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ออกกำลังกาย 

 

 

 

ทานตามอารมณ์ทานตามอารมณ์ทานตามอารมณ์

 

 


หากปัญหาความเครียดนั้นสูงเกินกว่าปกติเช่นเดียวกับการทาน แนะนำให้ปรึกษาจิตแพทย์ และนักโภชนาการดีกว่า เพราะจะช่วยให้เราจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ดีขึ้นนั่นเองครับ