รากฟันเทียม กุญแจสู่รอยยิ้มที่มั่นใจและสวยงาม

December 25 / 2024

รากฟันเทียม

 

 

 

 

     ปัจจุบันรากฟันเทียม (Dental implant) เป็นที่นิยมและถือเป็นการรักษาที่ดีที่สุดเพื่อทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป ทั้งยังประยุกต์ใช้ร่วมกับฟันปลอมได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังทำรากฟันเทียมจึงใช้งานได้สะดวกและเสริมสร้างภาพลักษณ์ของเราให้ดูดีทุกครั้งที่เผยรอยยิ้ม

 

 

รากฟันเทียม

 

 

 

ส่วนประกอบของรากฟันเทียม

  • ส่วนรากเทียม (Implant fixture/body) เป็นส่วนของรากเทียมที่มีลักษณะคล้ายสกูร ซึ่งทำด้วยวัสดุไทเทเนี่ยม (titanium) ที่เข้ากับร่างกายได้ดี แพทย์จะฝังสกูรนี้ลงในกระดูกเพื่อยึดติด โดยทั่วไปหลังฝังรากเทียมจะต้องใช้เวลาประมาณ 2-6 เดือนให้รากเทียมยึดกับกระดูกขากรรไกรได้แข็งแรงพอที่จะต่อส่วนแกนฟันและฟันปลอม ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพของผู้เข้ารับการรักษาแต่ละราย
  • ส่วนแกนฟัน (Implant abutment) ส่วนแกนฟันนี้ทำด้วยวัสดุไทเทเนี่ยมเป็นส่วนใหญ่ จะเป็นส่วนแกนที่โผล่ขึ้นจากเหงือกโดยยึดกับส่วนรากเทียมที่ฝังในกระดูกด้วยสกูร
  • ส่วนทันตกรรมประดิษฐ์ (Prosthetic component) คือส่วนครอบฟัน (crown) สะพานฟัน (bridge) หรือฟันปลอมติดแน่นหรือถอดได้ ที่ยึดติดกับตัวแกนฟันด้วยซีเมนต์ ทางทันตกรรม หรือ สกูร หรือตัวยึดอื่นๆ (attachment)

 

 

 

รากฟันเทียม

 

 

ประโยชน์ของการรักษาด้วยรากฟันเทียม

  • ทดแทนฟันธรรมชาติ เนื่องจากมีลักษณะใกล้เคียงที่สุด
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหาร เคี้ยวอาหารได้ละเอียดซึ่งดีต่อระบบย่อยอาหาร
  • ใช้รากเทียมร่วมกับฟันปลอมชนิดถอดได้ ซึ่งช่วยลดการเคลื่อนขยับของฟันปลอม ทั้งขณะพูดหรือเคี้ยวอาหาร และยังลดการเกิดแผลกดทับที่สันเหงือกใต้ฟันปลอม
  • ช่วยอนุรักษ์และลดการละลายตัวของสันกระดูกบริเวณที่มีรากฟันเทียม
  • ช่วยส่งผ่านแรงบดเคี้ยวไปที่กระดูกเบ้าฟัน
  • ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ เช่น การพูด การยิ้ม
  • หลีกเลี่ยงการกรอฟันข้างเคียงเพื่อการทำสะพานฟัน

 

การออกแบบทันตกรรมประดิษฐ์ที่ใช้ร่วมกับรากฟันเทียม

     การออกแบบส่วนทันตกรรมประดิษฐ์นั้นแตกต่างไปตามจำนวนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป ปริมาณกระดูกรองรับฟันที่เหลืออยู่และความต้องการของคนไข้ หลังการวินิจฉัยด้วยการตรวจช่องปาก การตรวจด้วยเครื่อง CT Scan และการตรวจอื่นอย่างละเอียด ทันตแพทย์จะวางแผนการรักษาที่เหมาะสมตามแต่บุคคล

 

 

รากฟันเทียม

 

 

ชนิดทันตกรรมประดิษฐ์ที่ใช้ร่วมกับรากฟันเทียม

1.  กรณีสูญเสียฟันไป 1 ซี่ และการทำครอบฟัน (crown)

     ทันตแพทย์สามารถฝังรากฟันเทียมบริเวณที่ต้องการ ใส่แกนฟันและครอบฟัน โดยไม่ต้องกรอแต่งฟันข้างเคียงเพื่อทำสะพานฟันเหมือนในอดีต ทำให้ทดแทนฟันที่สูญเสียไปได้ใกล้เคียงฟันธรรมชาติและทำความสะอาดฟันได้สะดวก

 

 

ภาพก่อนและหลังการรักษา

รากฟันเทียม

 

 

2. การสูญเสียฟันหลายซี่และการทำสะพานฟัน (Bridge)

     กรณีนี้ทันตแพทย์จะประเมินถึงจำนวนของรากฟันเทียมที่ต้องใช้รองรับสะพานฟัน แต่หากสะพานฟันที่มียังแข็งแรงเพียงพอสำหรับรองรับแรงบดเคี้ยวอาหาร เช่น ในกรณีเคสตัวอย่างที่มีการหายไปของฟันหลายซี่ แต่สามารถทำรากฟันเทียมและสะพานฟันกระจายไปอย่างเหมาะสมในขากรรไกร ก็ยังสามารถทำสะพานฟันเดิมต่อยอดให้ติดแน่นสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ และบดเคี้ยวอาหารได้ด้วยเหมือนกัน

 

 

รากฟันเทียม

 

ภาพก่อนการรักษา

 

รากฟันเทียม

 

ภาพหลังฝังรากเทียมและใส่แกนฟันเพื่อทำสะพานฟัน

 

รากฟันเทียม

 

ภาพภายหลังการใส่สะพานฟัน หลายชิ้นในแต่ละส่วนของช่องปาก

 

รากฟันเทียม

 

รอยยิ้มภายหลังการรักษา

 

รากฟันเทียม

 

 

3. การใช้รากฟันเทียมร่วมกับฟันปลอมถอดได้บางส่วนหรือฟันปลอมถอดได้ทั้งปาก

     กรณีที่ผู้ป่วยสูญเสียฟันไปหลายซี่ สูญเสียฟันทุกซี่ในขากรรไกร หรือมีกระดูกรองรับฟันในบางตำแหน่งไม่เพียงพอทำรากเทียม ทันตแพทย์จะใช้รากเทียม ตัวยึด และฟันปลอมถอดเป็นการรักษาทางเลือก เนื่องจากช่วยลดโอกาสฟันปลอมหลวมหรือขยับ ขณะบดเคี้ยวอาหาร ทำให้สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น ละเอียดขึ้นและเพิ่มความมั่นใจให้คนไข้ขณะ พูด ยิ้ม หรือ หัวเราะ

 

 

ภาพตัวอย่างของตัวยึด (attachment) ที่มีส่วนแกนฟันที่ยึดติดกับรากฟันเทียม และส่วนฝาครอบและยางที่ยึดติดกับด้านในของฟันปลอม

 

รากฟันเทียม

 

 


เคสตัวอย่างนี้มีฟันหลังเหลือเพียง 2 ซี่ในขากรรไกรบน ทำให้ฟันปลอมถอดได้ชิ้นเดิมของผู้ป่วย ขยับมากเวลาพูดหรือเคี้ยวอาหาร หลังการรักษาด้วยการทำรากฟันเทียมจึงทำให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจขึ้น


 

 

 

ภาพก่อนและหลังการรักษา

 

รากฟันเทียม

 

ภาพภายหลังการฝังรากเทียมและใส่แกนฟันและตัวยึดในฟันปลอม (attachment)

 

รากฟันเทียม

 

 

 


เคสตัวอย่างถัดไป ผู้ป่วยสูญเสียฟันทุกซี่ในขากรรไกรล่าง แพทย์จึงฝังรากฟันเทียม แกนฟันและใส่ตัวยึดในฟันปลอม เพื่อเสริมการยึดติดไม่ให้ขยับเวลา พูดและบดเคี้ยว ซึ่งช่วยลดแผลกดทับที่เหงือกใต้ฟันปลอม


 

 

 

ภาพก่อนและหลังการรักษา

 

รากฟันเทียม

รากฟันเทียม

 

 

4. การใช้รากฟันเทียมร่วมกับฟันปลอมติดแน่นชนิด ไฮบริด (Hybrid Denture/ All on 4 / All on 6)

     กรณีผู้ป่วยสูญเสียฟันไปทั้งหมดในขากรรไกรและสูญเสียกระดูกรองรับฟันไปมาก แต่ต้องการทำฟันปลอมทั้งปากชนิดติดแน่นแบบไม่ถอดออก ฟันปลอมลักษณะนี้ โดยทั่วไปแพทย์จะปักรากฟันเทียมในขากรรไกรล่าง-บนอย่างน้อย 4-6 ตัว เพื่อรองรับชิ้นฟันปลอมที่ยึดด้วยสกูรกับตัวแกนฟันและรากเทียม หลังการรักษาจึงทำให้ฟันปลอมชนิดนี้มีขนาดเล็กกว่าฟันปลอมชนิดถอดได้ ช่วยให้ผู้ป้วยเคี้ยวอาหารได้มีประสิทธิภาพ และมั่นใจทุกการอิริยาบถ

 

 

รากฟันเทียม

 

เคสตัวอย่างในคนไข้ที่สูญเสียฟันล่างไปทั้งหมดและทำการฝังรากเทียม และยึดติดฟันปลอมแบบไฮบริดในขากรรไกรล่าง

 

ภาพขาการไกรล่างที่ได้รับการฝังรากเทียมและใส่แกนฟันจำนวน 6 ตัว

 

รากฟันเทียม

 

ภาพชิ้นฟันปลอมไฮบริทบนโมเดล

 

รากฟันเทียม

 


ภาพฟันปลอมไฮบริทที่ได้ใส่ในขากรรไกรล่างภายหลังการรักษา

 

รากฟันเทียม

 

 

การดูแลรักษาภายหลังการรักษาด้วยรากฟันเทียม

     แม้รากฟันเทียมจะไม่สามารถเกิดฟันผุได้เหมือนฟันธรรมชาติ แต่ก็ยังสามารถเกิดโรคเหงือกอักเสบหรือกระดูกรองรับรากฟันเทียม (implant mucocitis /implantitis) ได้อยู่ ดังนั้นหลังการรักษาจึงจำเป็นต้องรักษาความสะอาดและดูแลเหมือนฟันธรรมชาติ

 

  • ดูแลความสะอาดของช่องปากด้วยการแปรงฟันเข้าถึงซอกและใช้ไหมขัดฟันวันละ 1-2 ครั้ง 
  • เข้าพบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อตรวจสภาพรากฟันเทียม
  • หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารเหนียวหรือแข็งที่ต้องออกแรงเคี้ยวมากๆ เช่น กระดูกอ่อน น้ำแข็ง เป็นต้น
  • หากมีการนอนกัดฟันหรือกัดเน้นฟันจำ ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้าพบทันตแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว

 

 

 

รากฟันเทียมรากฟันเทียมรากฟันเทียมรากฟันเทียม

 

 

 

 

 

แก้ไข

25/09/2566