มะเร็งตับ โรคร้ายที่อันตรายถึงชีวิต

November 01 / 2024

มะเร็งตับ

 

 

     มะเร็งตับ หรือ Hepatocellular carcinoma คือ โรคที่เกิดจากเซลล์ตับที่ผิดปกติ เกิดการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนเซลล์มากกว่าปกติ จนเกิดเป็นก้อนในตับ และ อาจมีการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น ปอด กระดูก

 

 

มะเร็งตับเกิดจากอะไร?

     มะเร็งตับส่วนใหญ่เกิดจากโรคตับแข็ง ซึ่งอาจจะเกิดจากสาเหตุได้หลากหลาย เช่น การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ตับอักเสบจากไขมันพอกตับ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี หรือซี นอกจากนี้มะเร็งตับยังอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง หรือตับอักเสบจากไขมันเกาะตับเป็นเวลานาน โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีภาวะตับแข็งก็ได้

 

มะเร็งตับ

 

 

อาการโรคมะเร็งตับ

โรคมะเร็งตับมักไม่มีสัญญาณหรืออาการบ่งบอกในระยะแรกเริ่ม จนเมื่อมะเร็งพัฒนาถึงขั้นแสดงอาการจึงจะสังเกตได้ดังนี้

  • ปวดท้อง โดยเฉพาะบริเวณข้างขวาส่วนบน ในบางรายอาจมีอาการปวดร้าวไปที่หลังหรือไหล่
  • ท้องบวมขึ้น
  • น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • เบื่ออาหาร ไม่รู้สึกอยากอาหาร
  • รู้สึกอ่อนเพลีย
  • มีไข้โดยไม่ทราบสาเหตุ
  • คลำพบก้อนที่บริเวณตับ
  • ตัวเหลืองและตาเหลือง

 

มะเร็งตับ

 

การรักษาโรคมะเร็งตับ

  • การผ่าตัดรักษามะเร็งตับ (Surgery) พิจารณาในกรณีผู้ป่วยที่การทำงานของตับที่ยังดีอยู่ ขนาดของมะเร็งตับไม่เกิน 5 เซนติเมตร และไม่มีการกระจายของมะเร็งไปยังเส้นเลือดใกล้เคียงหรืออวัยวะอื่นๆ
  • การผ่าตัดเปลี่ยนตับ (Liver transplantation) พิจารณาในผู้ป่วยมะเร็งตับที่มีตับแข็งร่วมด้วย เพราะสามารถรักษามะเร็งตับและตับแข็งในเวลาเดียวกัน การรักษาด้วยวิธีนี้จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อมะเร็งมีขนาดเล็ก และยังไม่มีการลุกลามไปยังอวัยวะใกล้เคียง
  • การรักษามะเร็งตับโดยใช้คลื่นความถี่สูง (Radiofrequency ablation ; RFA) ซึ่งคลื่นความถี่สูงนี้ไปเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนทำลายเซลล์มะเร็งตับ วิธีนี้จะได้ผลดีในก้อนมะเร็งตับที่มีขนาดไม่ใหญ่เกินไป โดยทั่วไปควรมีขนาดเล็กกว่า 3 เซนติเมตร และอยู่ห่างจากหลอดเลือดขนาดใหญ่
  • การรักษามะเร็งตับโดยวิธี Transarterial Chemoembolization (TACE) เป็นการรักษาโดยการใช้การฉีดยาเคมีบำบัด หรือสารเภสัชรังสีเข้าไปยังก้อนมะเร็งโดยตรง สามารถทำลายเซลล์มะเร็ง และมีการฉีดสารอุดหลอดเลือดทำให้มะเร็งขาดเลือดไปเลี้ยง ผู้ป่วยที่เหมาะกับการรักษาด้วยวิธีนี้ ได้แก่ ผู้ป่วยที่ไม่สามารถรักษาโดยวิธีก่อนหน้าได้ เนื่องจากก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่ หรือก้อนอยู่ชิดกับอวัยวะที่สำคัญจึงไม่สามารถผ่าตัดได้
  • การให้ยาเคมีบำบัด (Systemic chemotherapy) พิจารณาในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาดังกล่าวข้างต้น ทางเลือกของการรักษาในปัจจุบัน ได้แก่ ยาเคมีบำบัดชนิดมุ่งเป้า (Targeted chemotherapy) ยาชนิด Immunotherapy ซึ่งแพทย์จะพิจารณาแก่ผู้ป่วยเป็นกรณีไป

 

 

วิธีลดความเสี่ยงโรคมะเร็งตับ

  • การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงและรักษาโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี
  • งดเว้นการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
  • การควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ควรปรึกษาแพทย์ หากมีประวัติไวรัสตับอักเสบบีในครอบครัวหรือคู่สมรส
  • ควรตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากโรคตับในระยะเริ่มแรกมักไม่แสดงอาการ

 

แก้ไข

14/09/2565