ทำไม..ถึงไอเรื้อรัง ทำอย่างไรถึงจะหาย?

December 11 / 2024

 

 

 

ทำไม..ถึงไอเรื้อรัง ทำอย่างไรถึงจะหาย?

 

 

 

 

     ไอเรื้อรัง (Chronic Cough) คืออาการไอที่เกิดขึ้นติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน โดยผู้ใหญ่มักจะมีอาการติดต่อกันเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ขึ้นไปและเด็กจะมีอาการติดต่อกันเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ขึ้นไป ไอเรื้อรังเป็นอาการที่ไม่ใช่โรค ซึ่งมีสาเหตุจากปัจจัยหรือปัญทางสุขภาพต่าง ๆ เช่น สูบบุหรี่ น้ำมูกหรือเสมหะไหลลงคอ โรคหืด และโรคกรดไหลย้อน โดยเมื่อโรคหรือภาวะที่เป็นสาเหตุได้รับการรักษาให้หายเป็นปกติ อาการไอเรื้อรังก็จะหายไป

 

 

ไอเรื้อรัง เกิดจากอะไร ?

อาการไอเรื้อรังเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

 

 

ไอเรื้อรัง

 

 

ไอแบบไหนควรเข้าพบแพทย์

  • ไอติดต่อกันมากกว่า 8 สัปดาห์
  • อาการไอรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
  • อาการไอร่วมอาการอื่น เช่น มีเลือดปน น้ำหนักลด เบื่ออาหาร หอบเหนื่อย อ่อนเพลีย เจ็บหน้าอก
  • ไอมีเลือดปนเสมหะ
  • ไอจากการเคยสัมผัสกับผู้ป่วยวัณโรค หรืออยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยวัณโรค
  • มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไต หัวใจ เมื่อมีอาการไอควรรีบมาพบแพทย์

 

 

 

ไอเรื้อรังรักษาอย่างไร?

     การรักษาอาการไอเรื้อรังที่สำคัญที่สุดคือการหาสาเหตุของอาการไอและรักษาตามสาเหตุนั้น นอกจากนี้การดูแลตัวเองขณะที่มีอาการไออย่างถูกต้องก็ยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น 

 

  • หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ก่ออาการไอมากขึ้น เช่น สารก่ออาการระคายเคือง ฝุ่น สารเคมี ควันบุหรี่
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศจากเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมโดยตรง เนื่องจากอากาศที่เย็นสามารถกระตุ้นหลอดลมหดตัวทำให้มีอาการไอมากขึ้นได้
  • ผู้ที่สูบบุหรี่ควรหลีกเลี่ยงหรืองดการสูบบุหรี่
  • ควรให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายให้เพียงพอขณะนอน เช่น นอนห่มผ้า
  • ถ้าหากอาการไอมีไม่มาก แพทย์อาจรักษาเบื้องต้นด้วยการให้ยารับประทานเพื่อบรรเทาอาการ กรณีที่มีเสมหะร่วม ควรได้รับยาละลายเสมหะ เพื่อให้ขับเสมหะที่เหนียวข้นมากออกจากหลอดลมได้ง่าย หากผู้ป่วยได้รับยาดังกล่าวแล้วอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุ

 

 

ไอเรื้อรังไอเรื้อรังไอเรื้อรัง

 

ไอเรื้อรังไอเรื้อรัง

 

 

 

 

 

แก้ไข

21/03/2565