s โรคตาแห้ง รู้ไว้ก่อนป้องกันได้ l โรงพยาบาลรามคำแหง

โรคตาแห้ง รู้ไว้ก่อนป้องกันได้ l โรงพยาบาลรามคำแหง

December 11 / 2023

 

โรคตาแห้ง รู้ไว้ก่อนป้องกันได้

 

 

โรคตาแห้ง (Dry Eyes) หรืออาการตาแห้ง เป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายผลิตน้ำตาออกมาได้ไม่เพียงพอหรือคุณภาพของน้ำตาไม่เพียงต่อการหล่อลื่นและปกป้องดวงตา ส่งผลให้มีอาการระคายเคืองในดวงตา ตาแดง และไวต่อแสง ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นอาจส่งผลต่อการมองเห็นและการใช้ชีวิต

 

 

 

สาเหตุของโรคตาแห้ง

 

โดยปกติแล้วในน้ำตาจะมีส่วนผสมของน้ำ ไขมัน และเมือก เพื่อช่วยให้พื้นผิวของดวงตาเรียบเนียน และป้องกันการติดเชื้อในบริเวณดวงตา แต่หากปริมาณน้ำตาไม่เพียงพอหรือคุณภาพของน้ำตาไม่ดีพอต่อการหล่อลื่นจะส่งผลให้เกิดอาการตาแห้งตามมา โดยอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

 

  • ความเสื่อมของต่อมน้ำตาไมโบเมียน ซึ่งเป็นต่อมที่อยู่ที่เปลือกตา ทำหน้าที่สร้างน้ำตามาหล่อลื่นดวงตา
  • ความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะในเพศหญิง ทำให้คุณภาพของน้ำตาลดลง
  • การใส่คอนแทคเลนส์
  • อาการภูมิแพ้ที่ตา ซึ่งอาจเกิดจากสิ่งแวดล้อมที่มีฝุ่น ควัน และมลภาวะ
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานเกินไป
  • การใช้ยาบางประเภท เช่น ยาคุมกำเนิด ยาแก้แพ้ ยาต้านซึมเศร้า ยาลดความดันโลหิตบางชนิด เป็นต้น

 

 

อาการของโรคตาแห้ง

 

ผู้ป่วยมักมีอาการที่เกิดกับตาทั้งสองข้าง ดังนี้

 

  • รู้สึกระคายเคือง แสบร้อน หรือคันบริเวณดวงตา
  • มีเมือกอยู่ในดวงตาหรือรอบๆ ดวงตา
  • ตาไวต่อแสง
  • ตาแดง โดยเฉพาะเมื่อถูกลม หรืออยู่ใกล้ควัน
  • รู้สึกเหมือนมีบางอย่างอยู่ในตา เช่น ขนตา หรือฝุ่น
  • ใส่คอนแทคเลนส์ได้ยาก หรือรู้สึกเจ็บเมื่อใส่คอนแทคเลนส์
  • ตามัวหรือตาล้า โดยเฉพาะเวลาอ่านหนังสือหรือใช้สายตา

 

 

การป้องกันโรคตาแห้ง

 

อาการของโรคตาแห้ง สามารถป้องกันได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

 

  • ระวังไม่ให้ดวงตาสัมผัสโดนลมโดยตรง เช่น การใช้ไดร์เป่าผม การเปิดพัดลมจ่อหน้า
  • หากอยู่ในห้องแอร์นานๆ หรือสถานที่ที่มีสภาพอากาศแห้งมาก ควรเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ โดยอาจใช้เครื่องเพิ่มความชื้นภายในห้อง
  • สวมใส่แว่น หรืออุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันดวงตาจากการสัมผัสลม หรืออากาศแห้ง
  • พักสายตาระหว่างการอ่านหนังสือ หรือการทำงานที่ต้องใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยการหลับตา 2-3 นาที หรือกระพริบตาบ่อยๆ เพื่อให้น้ำตากระจายตัวในดวงตาอย่างทั่วถึง
  • จัดตำแหน่งของจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตา เพื่อลดการเปิดดวงตาเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งจะช่วยลดการระเหยของน้ำตา

 

 

 

การรักษาโรคตาแห้ง

 

  • การใช้น้ำตาเทียมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา
  • การใช้ยาหยอดตากลุ่มสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบของผิวนัยน์ตาหรือผิวเยื่อบุตา และช่วยบรรเทาอาการคันระคายเคืองตา แต่การใช้ยากลุ่มนี้จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และใช้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น
  • การทำความสะอาดเปลือกตาด้วยน้ำยาพิเศษ เพื่อกำจัดเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกที่อยู่บริเวณรอบเปลือกตา
  • การประคบน้ำอุ่น อุณหภูมิประมาณ 41-43 องศาเซลเซียส เป็นประจำเช้า-เย็น
  • การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ลดการเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟน และพักสายตาเป็นระยะๆ

 

 

 

อาการตาแห้ง เกิดขึ้นเมื่อร่างกายผลิตน้ำตาออกมาไม่เพียงพอต่อการหล่อลื่นและปกป้องดวงตา ส่งผลให้เกิดระคายเคืองในดวงตา ตาแดง และไวต่อแสง อาจส่งผลต่อการมองเห็นและการใช้ชีวิต หากมีอาการควรรีบปรึกษาจักษุแพทย์

 

 

นัดพบแพทย์คลิก

พญ.กนกวรรณ ยุตติธรรม

จักษุแพทย์

 

 

แก้ไข

10/03/2565