โรคมะเร็งปากมดลูก ป้องกันได้ง่าย ๆ ด้วยการฉีดวัคซีน HPV

January 08 / 2024

 

 

 โรคมะเร็งปากมดลูก ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน HPV

 

โรคมะเร็งปากมดลูกมักเกิดกับผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป แต่เดี๋ยวนี้คุณหมอบอกว่าเป็นในผู้หญิงอายุน้อยลง แล้วก็ทำให้ผู้หญิงไทยของเราเสียชีวิตด้วยโรคนี้เยอะมากทีเดียว จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าโรคมะเร็งปากมดลูกคร่าชีวิตหญิงไทยปีละ 5,200 รายเฉลี่ยวันละ14 ราย ป่วยเพิ่มขึ้นปีละ10,000 ราย โดยกลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือ 45-55 ปี

 

 

มะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุอะไร ? 


เกิดจากโรคติดต่อ ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งและเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ชื่อเต็มๆ เรียกว่า “ฮิวแมน แพปพิลโลมา ไวรัส” (Human Papilloma Virus) หรือ HPV เชื้อตัวนี้ถ้าเราจะคุ้นเคยก็คือเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่ ซึ่งเราพบมาเนิ่นนานแล้ว เพียงแต่ว่ากลุ่มเชื้อของตัวที่ทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่นั้นเป็นชนิดความรุนแรงน้อยส่วนตัวที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกนั้นเป็นชนิดที่มีความรุนแรงมาก 

 

 

จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก ? 


โรคมะเร็งปากมดลูกถือเป็นปัญหาสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากในระยะแรกๆ ที่ยังไม่มีการลุกลามจนกลายเป็นมะเร็งขึ้น มีแค่ระดับเซลล์ที่ผิดปกติแค่นั้น ผู้ป่วยจะไม่มีอาการอะไรเลยแล้วก็จะนิ่งนอนใจว่าคงจะไม่ได้เป็นอะไร ทำให้คลาดจากการตรวจคัดกรองที่สำคัญไปคือการตรวจสุขภาพประจำปีทางสูตินรีเวช ซึ่งเรียกว่า แปปสเมียร์ (Pap smear) ซึ่งสามารถตรวจพบได้ตั้งแต่เซลล์ผิดปกติระยะเริ่มต้นก่อนพัฒนากลายเป็นมะเร็ง และสามารถรักษาก่อนพัฒนากลายเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ แต่ถ้าไม่ได้รับการตรวจคัดกรอง ผู้ป่วยมักจะมาพบแพทย์ด้วยอาการมีเลือดออกมากผิดปกติ ตกขาวมีกลิ่นที่ผิดปกติ หรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ 

 

 

 

วิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทำอย่างไร ? 


ในปัจจุบันการตรวจได้พัฒนาสามารถตรวจได้หลายวิธี ดังนี้

 

    - วิธีดั้งเดิมเรียกว่า Conventional Pap Smear มีความไว 50- 60% Saul 98% ปัญหาที่พบจากการตรวจวิธีนี้คือ เวลาเราป้ายเซลล์ไปตรวจด้วยทันทีข้อจำกัดของแผ่นสไลด์และการปนเปื้อนของเลือดหรือตกขาวทำให้ไม่ได้เซลล์ทั้งหมดที่เก็บมาตรวจ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยรายนั้นไม่ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง อันนี้เรียกว่าผลลบลวง 

 

   - ปัจจุบันมีการตรวจอีกวิธีคือการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี ลิควิด เบส (Liquid Based Cytology) ซึ่งคือการตรวจ ตินเพร็พ (Thin Prep) หรือ Liqui-PREP หรือ SurePath โดยใช้อุปกรณ์เฉพาะในการเก็บตัวอย่างป้ายเยื่อบุผิวจากบริเวณปากมดลูกด้วยวิธีเดียวกับการทำแปปสเมียร์ แบบดั้งเดิมแล้วนำเซลล์ตัวอย่างที่เก็บได้ทั้งหมดใส่ลงในขวดน้ำยาเพื่อรักษาเซลล์ส่งเข้าเครื่องอัตโนมัติ ในการเตรียมเซลล์เยื่อบุผิวที่ปราศจากสิ่งปนเปื้อนพวกมูกหรือเม็ดเลือดและลดการซ้อนทับของเซลล์ที่หนาแน่นเกินไปลงบนแผ่นสไลด์แก้ว ช่วยเพิ่มโอกาสให้พยาธิแพทย์ในการตรวจพบความผิดปกติที่มีอยู่ได้ดียิ่งขึ้น และสามารถส่งการตรวจเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) ที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูก เพิ่มเติมได้ในกรณีพบเซลล์ผิดปกติจากการตรวจแปปสเมียร์ หรือสามารถใช้ตรวจคู่ร่วมกับ แปปสเมียร์ co - testing จากการตรวจคัดกรองรอบแรกเป็นการตรวจที่เพิ่มความแม่มยำในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก  

 

 

 

ใครบ้างที่ควรมาตรวจคัดกรองหามะเร็งปากมดลูก ? 

 

  • สตรีอายุ 25 ปี ที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว หรือ อายุ 30 ปี ในสตรีที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
  • สตรีที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV Vaccine) ควรได้รับการตรวจคัดกรองเช่นเดียวกับสตรีทั่วไป
  • สตรีที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ควรตรวจคัดกรองทุก 6 เดือน ในปีแรกหลังวินิจฉัยโรคภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หลังจากนั้นจึงตรวจปีละ 1 ครั้ง ไปตลอด  
  • สตรีที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย 
  • สตรีที่มีบุตรหลายๆ คน 
  • สตรีที่สูบบุหรี่ 

 

ข้อแนะนำสำหรับผู้หญิงไทยในเรื่องมะเร็งปากมดลูก 


โรคมะเร็งปากมดลูกเป็นโรคซึ่งพบได้มากเป็นอันดับสองรองจาก มะเร็งเต้านมและมีอันตรายร้ายแรง แต่ถ้าเราสามารถตรวจพบในระยะแรกเริ่มก่อนเป็นมะเร็ง

 

การรักษาอาจแค่ผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อที่ผิดปกติบริเวณนั้นออกหรือตัดมดลูกออกไป ในผู้ป่วยที่มีลูกเพียงพอแล้ว ซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ถ้าปล่อยให้ระยะของโรคลุกลามจนเป็นมะเร็งระยะ 1,2,3,4 ความรุนแรงมักจะมากขึ้นเรื่อยๆ การรักษาก็จะทำได้ยากลำบาก และมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนสูงขึ้นอย่างมาก

 

แต่ปัจจุบันมีการนำ “วัคซีน”มาฉีดเพื่อป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกจากเชื้อไวรัส HPV ซึ่งใช้ได้ผลค่อนข้างดี โดยฉีดบริเวณต้นแขนและใช้ได้กับเด็กหญิงตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพดีในการป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งในการป้องกันตัวเองจากโรคร้ายที่คุกคามชีวิตของผู้หญิงไทยในปัจจุบันให้มีความปลอดภัยมากขึ้น จึงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์สูตินรีเวชเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนดังกล่าวด้วย ร่วมกับวิธีการตรวจคัดกรองที่มีประสิทธิภาพดีก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้มากที่สุด 

 

 

โรคมะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที่อันตราย สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน HPV และถ้าตรวจพบในระยะแรกเริ่ม ก็สามารถรักษาให้หายเป็นปกติได้

 

 

 

โปรแกรมตรวจสุขภาพสตรี ตรวจภายใน ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูก โรคร้ายที่ป้องกันได้

ราคา 1,800 บาท

แพ็กเกจวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก

การฉีดวัคซีน HPV ไม่เพียงช่วยลดโอกาสในการเกิดมะเร็งปากมดลูกเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงการลดโอกาสการติดเชื้อไวรัสอื่นๆ

ราคา 8,000 บาท

โปรแกรมตรวจสุขภาพของผู้หญิง ตรวจภายใน ตรวจหาเชื้อ HPV DNA

ครอบคลุมทุกความเสี่ยงก่อนมะเร็งร้ายจะลุกลาม

ราคา 2,900 บาท

โปรแกรมตรวจสุขภาพ ช่วยคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ตรวจอัลตร้าซาวด์

โรคของผู้หญิงซับซ้อนกว่าที่คิด

ราคา 3,200 บาท

โปรแกรมตรวจสุขภาพสตรีตรวจภายใน ช่วยคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

โรคของผู้หญิงซับซ้อยกว่าที่คิด ตรวจให้ครอบคลุมด้วยโปรแกรมตรวจสุขภาพสตรี + ตรวจภายในคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

ราคา 5,500 บาท

แพ็กเกจวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (เด็กอายุ 9 ถึง 4 ปี)

การฉีดวัคซีน HPV ไม่เพียงช่วยลดโอกาสในการเกิดมะเร็งปากมดลูกเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงการลดโอกาสการติดเชื้อไวรัสอื่นๆ

ราคา 13,500 บาท

แพ็กเกจวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

การฉีดวัคซีน HPV ไม่เพียงช่วยลดโอกาสในการเกิดมะเร็งปากมดลูกเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงการลดโอกาสการติดเชื้อไวรัสอื่นๆ

ราคา 19,500 บาท