เสียงจากผู้รับบริการ

เด็กชายณาน สุขประเสริฐ

คนไข้ภาวะ MIS-C หรือที่เรียกว่าโรคภาวะอักเสบทั่วร่างกายในเด็ก

สัมภาษณ์คุณนิษธิดา สุขประเสริฐ คุณแม่ของผู้ป่วย

 

 “...ลูกมีอาเจียนค่อนข้างเยอะ แค่กินน้ำ หรือให้กินยาก็อาเจียนออกมาหมด ทีแรกคุณหมอคิดว่าน่าจะเป็นเพราะติดเชื้อ แต่เมื่อคุณหมอกับคุณพยาบาลได้ทราบว่าก่อนหน้านี้น้องฌานเพิ่งจะหายป่วยจากติดเชื้อโควิดมาได้ราว 2-3 อาทิตย์ เลยทำให้คุณหมอสะดุดขึ้นมาเพราะโรคที่ตามมาหลังจากเป็นโควิดน่าจะมีอาการไข้สูง แต่เหตุใดหนูน้อยรายนี้มีไข้ต่ำ ๆ และมีอาการเด่นชัดว่าเป็นปัญหาจากระบบทางเดินอาหาร คุณหมอก็เลยยังไม่ทิ้งประเด็นค่ะ แล้วก็ขอเจาะเลือดไปตรวจให้แน่ชัดว่าติดเชื้อตัวไหนอย่างไรโดยจะใช้เวลาวัน 2 วันค่ะ...แต่เมื่อเห็นทีท่าอาการของลูกแล้วคุณหมอบอกว่าอยากให้แอดมิดที่โรงพยาบาลค่ะ ก็เลยได้เข้าไปที่วอร์ดเด็กแล้วก็เห็นว่าน้องเขาตัวเหลืองแบบเห็นได้ชัดเลย...หัวใจก็เต้นเร็วขึ้น และรู้สึกตัวช้าลง น้อยลง คุณหมอจึงตัดสินใจให้ไป ICU ดีกว่าแม้ว่าเหมือนจะยังไม่ถึง 15 นาทีเลยค่ะ พอเข้าไปได้ไม่ถึง 20 นาทีคุณหมอ ICU เด็กก็มาขอคุยด้วยพร้อมกันกับคุณหมอเจ้าของไข้ค่ะ เพราะได้ค่าบางตัวออกมาบ้างแล้วและค่อนข้างหนักค่ะ คุณหมอก็เลยบอกว่าเดี๋ยวจะรักษาไอ้ตัวที่มันหนัก ๆ ออกไปก่อนเช่นพวกที่เกี่ยวกับการอักเสบของหัวใจ ซึ่งคุณหมอต้องให้ยาช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานดีขึ้น พร้อมกับให้ยาต้านการอักเสบไปด้วย...”


พญ.ธาริตา จารุชนะพงศ์ธร แพทย์ผู้ชำนาญการเวชบำบัดวิกฤตเด็ก และนพ.พีรธัช โชคมั่งมีพิศาล แพทย์ผู้ชำนาญการโรคสมองและระบบประสาทในเด็ก แพทย์ที่ให้การรักษากล่าวว่า
"สรุปก็คือคนไข้มีโรคประจำตัวที่เพิ่งจะมาตรวจพบที่โรงพยาบาลรามคำแหงหลังจากที่เราช่วยมาทั้งหมดแล้ว โดยที่โรคประจำตัวของเขาคือเป็น G6PD deficienc"

คุณสุธี รังสาคร

 

ผู้ป่วยหลอดเลือดหัวใจตีบ 3 เส้น และติดเชื้อโควิด-19

คุณจัสมิน รังสาคร ลูกชายให้สัมภาษณ์

 

“ให้การรักษาแบบเข้าใจง่ายแบบอธิบายให้เข้าใจ เห็นภาพ แล้วก็รักษาไว รวดเร็วมาก”

 

คุณพ่อมีอาการแน่นหน้าอก เหมือนกินข้าวแล้วกลืนไม่ลงก็คือเป็นมาก็สักพัก ประมาณ 2 อาทิตย์ เขาก็คิดว่านอนน้อย หรือแบบว่าเป็นกรดไหลย้อนอะไรหรือเปล่า ก็ลองนอนพักเยอะขึ้น ก็ยังไม่ดี ทีนี้คือแน่นหน้าอกตลอด นอนไม่หลับ นอนไม่ได้ครับ ก็คือพอมาทราบทีหลังเหมือนเป็นอาการน้ำใกล้จะท่วมปอด เพราะเขานอนราบแล้วมันจะแน่น คือนอนไม่ได้เลย กลางคืนก็ไม่หลับ เช้าก็ไม่หลับ ก็จนคืนนั้นคุณพ่ออาการไม่ไหวแล้ว คือหายใจไม่ไหว ก็เลยไปโรงพยาบาลกันครับ โดยตรวจพบว่าหลอดเลือดหัวใจตีบ 3 เส้น รักษาด้วยการผ่าตัดทำบอลลูนครับ และในช่วงนั่นประจวบเหมาะกับช่วงโอไมครอนกำลังระบาดแล้วคุณพ่อติดโควิด แต่ก็ถือว่าดีที่สามารถเข้ารับการรักษาได้ทันทีเพราะช่วงนั่นหาเตียงยากครับ

 

หมอคือดูแลดีครับ เครื่องมือทันสมัย พร้อมทุกอย่างแล้วก็ให้คำแนะนำดีครับ ให้คำแนะนำในการรักษาดีว่าควรจะทำยังไงต่อไป ให้การรักษาแบบเข้าใจง่ายแบบอธิบายเข้าใจ เห็นภาพ แล้วก็รักษาไว รวดเร็วมาก แปปเดียวคุณพ่อเข็นออกมาแล้วครับ สุดท้ายที่อยากฝากนะครับ เรื่องของสุขภาพต้องตรวจสุขภาพเป็นประจำหน่อย ถ้าเราไม่ดูแลตัวเอง ก็ต้องหันมาตรวจสุขภาพ และที่อยากฝากอีกเรื่องนึงที่สำคัญคือ บางทีโรคหัวใจนี่มันอันตรายตรงที่มันสะสมครับ คิดว่ามันมองเป็นกรดไหลย้อนก็ได้ มองเป็นอย่างอื่นก็ได้ ถ้าเป็นเนิ่น ๆ ตอนที่ยังเดินไหวรีบไปดีกว่า อย่าให้แบบนอนแล้วขึ้นเปลไปมันจะไม่ทันครับ 

 

 

 

คุณหวัง เตโช

 

ประสบการณ์การรักษาจากผู้ป่วยเนื้องอกในสมอง

 

ตาขวาพร่ามัวมองไม่ค่อยเห็นและ ปวดหัวแบบจี๊ด ๆ แล้วลามมาปวดที่ขมับขวาอยู่อย่างนั้น ซึ่งเวลาไหนที่ปวดมากก็ทำเอาเจ้าตัวถึงกับน้ำตาก็จะไหล...

 

“คุณกุลภัสสร์” บุตรสาวของ “คุณหวัง เตโช” โดยได้ให้ข้อมูลว่า “...เขากินยาพวกความดันอยู่แล้ว แต่ก่อนผ่าตัดราว 1-2 อาทิตย์เกิดอาการปวดหัวมาก...ปวดจนไม่ได้นอนเพราะถ้านอนไปแล้วก็จะปวด-ปวดจนนอนไม่หลับ ลูก ๆ เลยคิดว่าปล่อยไว้ไม่ได้แล้วเพราะแม่ได้นอนเลยถึงได้พาไปโรงพยาบาลแล้วได้เข้าเครื่อง MRI ก็เจอก้อนเนื้องอก ทำให้มาคิดกันว่าเราจะพาแม่ไปผ่าที่ไหนดี ก็เลยค้นหาข้อมูลจากเน็ตก็เจอว่าโรงพยาบาลรามคำแหงมีชื่อเสียงเรื่องรักษาเนื้องอก ก็เลยสรุปว่างั้นเราเลือกไปที่โรงพยาบาลรามคำแหงโดยไปหาคุณหมอนภสินธุ์ เถกิงเดช แม่จึงได้เข้าเครื่องสแกนสมอง MRI อีกรอบแล้วหมอก็บอกว่ามีก้อนเนื้อขนาดประมาณ 2.5 เซนติเมตรอยู่ด้านหลังตาขวาตรงช่องระหว่างสมองซึ่งผ่าตัดได้ แต่แม่ก็คิดอยู่ว่ากลัวจะไม่ฟื้น คือไม่อยากผ่าเพราะกลัวตายนั่นละ หมอก็บอกว่าเคยเจอกรณีที่ยากกว่านี้ ขออย่าได้กังวล...ก็ให้กำลังใจคนไข้ค่ะ แม่ได้นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลรามคำแหง 1 อาทิตย์ค่ะ และได้เข้ารับการตรวจสแกนสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอีกรอบหนึ่ง และหลังจากที่คุณหมอพิจารณาผลการสแกนแล้วก็ได้บอกเราว่าอีก 2 ปีค่อยมาเจอกัน...ประทับใจอาจารย์หมอเพราะพอผ่าตัดเสร็จตอนกลางคืนก็โทรมาบอกเราตอนเที่ยงคืนนั้นเลย ดึกขนาดนั้นก็ยัง โทรมาหามาบอกเราว่าปลอดภัยดีนะ คุณแม่เขาโอเคหมอผ่าตัดเรียบร้อย เพราะรู้ว่าเราเป็นห่วงเพราะแม่เองก็กังวลกลัวว่าจะไม่ฟื้น เลยพลอยให้ลูก ๆ ห่วงกันไปด้วย แต่มันก็น่ากลัว ผ่าสมองก็ต้องกลัวกันทั้งนั้น...แต่อาจารย์ก็บอกว่าไม่ต้องกลัว คิดไม่ผิดเลยที่ค้นข้อมูลแล้วเจอคุณหมอนภสินธุ์คนนี้ละค่ะ...นอกนั้นก็พาแม่ไปหาหมอปนัดดาเพื่อจะได้ดูเกี่ยวกับเบาหวาน ความดันโลหิต และแม่ก็เป็นหัวใจโตด้วยก็ให้เขาดูแลหมดทุกอย่าง คือต้องพามาหาหมอทุก 2-3 เดือนค่ะ...”