เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้
เราใช้ Cookies เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด สรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและ Cookies อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Policy)
บริษัท โรงพยาบาลรามคําแหง จํากัด (มหาชน)
โรงพยาบาลรามคำแหง (“โรงพยาบาล”) ได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ที่ท่านให้โรงพยาบาลใน ระหว่างการร้องขอการบริการ การเยี่ยมชมเว็บไซต์
หรือใช้แอพพลิเคชั่นของหรือจากโรงพยาบาล นโยบาย คุ้มครองข้อมูลส่วน
บุคคลนี้รวมถึงข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับตัวคุณโดยเป็นการส่งต่อมาจากบุคคลที่สาม
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง “ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือ ทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ”
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
1. โรงพยาบาลเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่าน ที่สามารถระบุตัวตนได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อประโยชน์ต่อท่านในระยะเวลาที่เหมาะสมจำเป็นต่อการให้บริการ ในกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูล กับโรงพยาบาล หรือร้องขอการบริการจากโรงพยาบาลผ่านช่องทางเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นหรือ ช่องทางอื่นใดของโรงพยาบาล อาทิเช่น การนัดหมายแพทย์ การทำธุรกรรมแบบออนไลน์ การสมัครรับจดหมายข่าว การขอรับความช่วยเหลือพิเศษ รวมไปถึงการทำธุรกรรมแบบออฟไลน์ เช่น การลงทะเบียนผู้ป่วยที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนของโรงพยาบาล หรือจากความสมัครใจ ของท่านใน การทำแบบสอบถาม (Survey) หรือการโต้ตอบทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) หรือการกรอก ให้ข้อมูลประกอบการสมัครงาน หรือช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ระหว่างโรงพยาบาล และท่าน
2. โรงพยาบาลอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม เช่นธุรกิจในเครือข่าย ตัวแทน จำหน่าย หรือผู้ให้บริการของโรงพยาบาล หน่วยงานภาครัฐ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวม
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวมจากท่านจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของการเก็บรวบรวม และประเภทของการบริการที่ท่านร้องขอจากโรงพยาบาล ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกนำมาใช้เพื่อให้การทำธุรกรรมออนไลน์หรือออฟไลน์ หรือบริการที่ได้รับการร้องขอเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวมโดยตรงจากท่าน หรือจากบุคคลที่สาม มีดังนี้
1) ข้อมูลระบุตัวตน เช่น ชื่อ ภาพถ่าย เพศ วัน เดือน ปีเกิด หนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรประชาชน หรือหมายเลขที่สามารถระบุตัวตนอื่นๆ
2) ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมลล์
3) ข้อมูลการชำระเงิน เช่น ข้อมูลการเรียกเก็บเงิน ข้อมูลบัตรเครดิตหรือเดบิต และ รายละเอียดบัญชี ธนาคาร
4) ข้อมูลการเข้ารับบริการ เช่น ข้อมูลการนัดหมายแพทย์ ข้อมูลส่วนบุคคลของญาติ ความต้องการ เกี่ยวกับห้องพัก อาหาร และบริการเสริมอื่นๆ
5) ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด เช่น ข้อมูลการลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรมกับเรา
6) ข้อมูลสถิติ เช่น จำนวนผู้ป่วย และการเข้าชมเว็บไซต์
7) ข้อมูลจากการเข้าใช้เว็บไซต์ของโรงพยาบาล
8) ข้อมูลด้านสุขภาพ รายงานที่เกี่ยวกับสุขภาพกาย และสุขภาพจิต การดูแลสุขภาพของท่าน ผลการทดสอบจากห้องทดลอง ห้องปฏิบัติการ และการวินิจฉัย
9) ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาและการแพ้ยาของท่าน
10) ข้อมูล Feedback และผลการรักษาที่ท่านให้ไว้
เราจะไม่เก็บและใช้ข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนของคุณ เช่น เชื้อชาติ ความเชื่อทางศาสนา ประวัติอาชญากร เว้นแต่เป็นไปตามที่ข้อบังคับและกฎหมายกำหนด หรือโดยความยินยอมของท่าน
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1) จัดหาบริการ หรือส่งมอบบริการของโรงพยาบาล
2) นัดหมายแพทย์ ส่งข่าวสาร แนะนำบริการของโรงพยาบาล
3) การประสานงานและส่งต่อข้อมูลซึ่งจะช่วยให้การส่งต่อผู้ป่วยมีความรวดเร็วขึ้น
4) การยืนยันตัวตนของผู้ป่วย
5) ส่งข้อความแจ้งเตือนการนัดหมายแพทย์ หรือการเสนอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาล
6) อำนวยความสะดวกและนำเสนอรายการสิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่ท่าน
7) จุดประสงค์ด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย และการลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การส่งข้อมูลเกี่ยวกับ โปรโมชั่น ผลิตภัณฑ์และบริการ รายการส่งเสริมการขาย และธุรกิจพันธมิตร
8) เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสาร ตอบค าถาม หรือตอบสนองข้อร้องเรียน
9) สำรวจความพึงพอใจของลูกค้า วิจัยตลาด วิเคราะห์ทางสถิติประมวลผลและแสดงผลเพื่อเป็น ข้อมูลในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ให้แก่ผู้ใช้บริการได้รับประโยชน์ยิ่งขึ้น
10) วัตถุประสงค์ทางบัญชีหรือทางการเงิน เช่นการตรวจสอบการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต การเรียกเก็บเงินและการตรวจสอบความถูกต้อง การขอคืนเงิน
11) รักษาความปลอดภัย รวมถึงความปลอดภัยขณะพักรักษาอยู่ในโรงพยาบาล
12) เพื่อวัตถุประสงค์ในการสมัครงาน การเป็นพนักงาน หรือวัตถุประสงค์อื่นใดที่เกี่ยวข้อง
13) ปฏิบัติตามกฎของโรงพยาบาล
14) ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนด ระเบียบ ข้อบังคับ หรือการร้องขอใดๆจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียกพยาน หรือคำสั่งศาล หรือการร้องขออื่นๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
15) วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่สนับสนุนการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น หรือที่ได้รับความยินยอมจาก ท่านเป็นครั้งคราว
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลอาจเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สาม ซึ่งอาจตั้งอยู่ภายในหรือ นอกราชอาณาจักร โดยโรงพยาบาลจะดำเนินตามมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสม หรือเป็นไปตามข้อบังคับและ กฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ที่ตามระบุไว้ข้างต้น ให้แก่
1) พันธมิตรทางธุรกิจ เช่น บริษัทประกัน พันธมิตรที่เข้าร่วมรายการโปรแกรมสะสมคะแนน และสิทธิ ประโยชน์และศูนย์การแพทย์ และหรือบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการให้บริการ
2) ธนาคาร และผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต หรือเดบิต
3) เจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงและความปลอดภัย
4) หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานศุลกากร
5) หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้
การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์บุคคลที่สาม เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบนมือถือของโรงพยาบาล อาจมีลิงก์เชื่อมไปยังเว็บไซต์บุคคลที่สาม หากท่านไปตาม ลิงก์เหล่านี้ นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ไม่มีผลกับเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม โปรดทราบว่าโรงพยาบาลไม่ สามารถรับผิดชอบใดๆ ต่อการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบุคคลที่สามดังกล่าว เนื่องจากอยู่นอกการ ควบคุมของโรงพยาบาล
การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล และความปลอดภัย
1. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูก เก็บรักษาไว้นานเท่าที่จำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ตามที่อธิบาย ไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย หรือเพื่อการดำเนินการทาง กฎหมาย
2. โรงพยาบาลจะใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย และการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อ ป้องกันและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวม
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
1. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent) : ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความ ยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับโรงพยาบาลได้ ตลอดระยะเวลาที่ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับโรงพยาบาล
2. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access) : ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและ ขอให้โรงพยาบาลทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้โรงพยาบาลเปิดเผยการได้มาซึ่ง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อโรงพยาบาลได้
3. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification) : ท่านมีสิทธิในการขอให้โรงพยาบาล แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
4. สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure) : ท่านมีสิทธิในการขอให้โรงพยาบาลท าการลบข้อมูล ของท่านด้วยเหตุบางประการได้
5. สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing) : ท่านมีสิทธิในการระงับการ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
6. สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability) : ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วน บุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับโรงพยาบาลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้
7. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object) : ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
ท่านสามารถร้องขอการเข้าถึงหรือขอให้อัพเดตและแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงสิทธิอื่นใดข้างต้น หรือสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ เช่น ขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้ระงับการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรณีเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้เกิน ขอบเขตวัตถุประสงค์การใช้งานที่แจ้งให้ทราบข้างต้น หรือไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน
การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโรงพยาบาลจะแจ้ง ให้ท่านทราบด้วยการ อัพเดตข้อมูลลงในเว็บไซต์ของโรงพยาบาล https://www.ram-hosp.co.th/contactus โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้หากท่านมีคำถาม ข้อเสนอแนะ และข้อร้องเรียนเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโปรดติดต่อได้ที่อีเมลล์ support@ram-hosp.co.th
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 01 มิถุนายน 2565
(นพ.พิชญ สมบูรณสิน)
กรรมการบริหาร
บริษัท โรงพยาบาลรามคําแหง จํากัด (มหาชน)
เสียงจากผู้รับบริการ
อดีตผู้ป่วยลิ้นหัวใจรั่ว
“มันรู้สึกดีขึ้นอาการต่างๆ มันลดลง ดีขึ้นกว่าเดิม แล้วสามารถเดินเหินได้ไกล”
ปกติแล้วก็มีการตรวจเช็คร่างกายเป็นประจำอยู่แล้ว หลังจากตรวจหมอบอกว่า รู้สึกว่าลิ้นหัวใจเริ่มรั่วแล้วนะ แต่ยังไม่มากยังไม่ต้องทำอะไรรอดูไปก่อน รั่วได้ซัก 3 ปี หมอก็บอกมันเป็นมากแล้วลิ้นชักมีเสียงดังแล้ว รั่วแล้ว ก็เลยถามคุณหมอการรักษามันมีวิธีใดบ้างทำได้กี่วิธี โรงพยาบาลที่ดูแลเราอยู่เนี๊ยะเขาก็มีวิธีการที่ทำอยู่วิธีเดียวก็คือการผ่าตัด วิธีอื่นไม่มีแต่หมอบอกว่าปกติมันมีวิธี 2 วิธี การผ่าตัด การทำTAVI แต่ว่าของเรายังไม่มีเท่านั้นเอง ที่นี้เราก็เอ้ะ ถ้าอย่างนั้นเราจะทำยังไงเรายังกลัวตึกตั๊กๆ ตัดสินใจอะไรยังไม่ได้ขอบอกคุณหมอไปว่า ขอปรึกษากับครอบครัวดูก่อนนะ
ทุกคนก็ลงความเห็นว่าด้วยคุณพ่ออายุเยอะแล้ว 85 ปี ก็ไม่อยากให้เจ็บตัวเยอะก็เลยคิดว่าทำด้วยวิธี TAVI ดีกว่าแล้วก็เป็นวิธีที่ใหม่ ด้วยคุณพ่อที่มีอายุเยอะแล้วการที่เราจะไปผ่าตัดแบบนั้นความเสี่ยงก็จะสูงโดยเฉพาะในเรื่องของการติดเชื้อแล้วเราได้คุยกับคุณหมอก็คิดเหมือนกันว่าวิธีทำด้วย TAVI หนึ่งลดอาการเจ็บตัวคือไม่มีการเจ็บตัวหรือการเจ็บตัวน้อยมากซึ่งคุณพ่อทำออกมาไม่มีเคยบ่นว่ามีการเจ็บแผลหรืออะไรเลยนะคะ
อดีตผู้ป่วยหลอดเลือดหัวใจตีบสนิท
“ตรงขั้วหัวใจ ตรงที่มีหินปูนอุดตัน เป็นเกือบ 80% ขึ้นไป มาที่นี่ไม่ผิดหวัง คืออาจารย์หมอวสันต์ทำให้ดีมากประทับใจครับ”
(ลูกชายสัมภาษณ์) มีอาการเกี่ยวกับกรดไหลย้อน คุณหมอบอกว่าเป็นกรดไหลย้อนก็กินยาไปประมาณสองปี แล้วมาวันนึงก็เริ่มแน่นๆ ก็เลยไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งตรวจเลือดหมอก็บอกว่าเป็นหัวใจไม่ใช่กรดไหลย้อน เลยมาโทรนัดกับรพ.รามคำแหงว่าจะมาปรึกษา ก็ได้พบอาจารย์วสันต์เอาซีดีให้ดู อ.วสันต์ก็บอกว่า อือ...หนักอยู่นะเคสนี้เพราะว่าเส้นมันหายไปแล้วทั้งสองเส้นตรงขั้ว เลยก็ตัดสินใจว่าที่นี่แหละ น่าจะทำได้เพราะว่าเคสนี้มันมีหินปูนอยู่ข้างในด้วย แล้วก็มีที่นี่มีหัวกากเพชร (Rotablator) อะไรเนี๊ยแหละ สามารถทะลวงหินปูนได้ ผมว่าก็น่าจะใช้ได้ตัวนี้น่าจะโอเค คุณหมอเขาก็รับปากว่าทำได้ผมก็เลยตัดสินใจทำที่นี่
สองชั่วโมงนิดๆ ก่อนที่จะทำอาจารย์ก็เตรียมพร้อมไว้โดยเรียกเข้าไปคุยอีกทีว่าถ้าเกิดทำแล้วมันไม่สำเร็จก็จะมีทีมแพทย์ผ่าตัดอีกชุดหนึ่งเตรียมพร้อมไว้แล้ว ถ้าไม่สำเร็จจะให้ทีมผ่าเข้าเลย หมอมีความรัดกุมมากเตรียมถึงสองชุด คือมันเป็นทั้งสองเส้นมันมองไม่เห็นมันขาวไปเลยคือเส้นขาดจากกันละ เมื่ออาจารย์ทำเส้นแรกเสร็จแกก็จะเรียกให้เข้าไปดูว่า ก่อนทำกับหลังทำแล้วเลือดนี่วิ่งดีมากเลย
อดีตผู้ป่วยหลอดเลือดหัวใจตีบ
“เป็นเคสที่ค่อนข้างยาก เพราะว่าทำมาแล้วสองครั้งไม่สำเร็จ แต่ก็มีโอกาส”
ผมตรวจเลือดตรวจไขมันในเส้นเลือดตั้งแต่อายุประมาณ 35 ปี ปรากฏว่าค่าไขมันในเส้นเลือดสูง แต่เราก็คิดว่าเราออกกำลังกายคุมอาหารก็น่าจะช่วยได้แล้วคิดว่าอายุยังน้อย และเราก็ยังไม่อยากทานยา ยังใช้ชีวิตแบบนั้นจนมาอายุประมาณ 50 จนเมื่อปลายปีที่แล้ว รู้สึกว่าค่าไขมันมันสูงมานานละเริ่มไม่สบายใจก็เลยเข้าไปที่โรงพยาบาลนึงขอตรวจ CT scan ซึ่งเราหาข้อมูลมาว่าตรวจด้วยวิธีไหนได้บ้าง ปรากฏว่าค่า CT scan มันสูงเกินปกติ ซึ่งค่าความเสี่ยงอยู่ที่ประมาณตัวเลข 400 แต่ของผมเนี่ย 1,100 แสดงว่าหลอดเลือดหัวใจน่าจะมีปัญหาละ แต่เราก็ยังไม่ทำอะไรก็ยังใช้ชีวิตปกติ ผมได้มีโอกาสไปแข่งบาสอาวุโสที่เชียงใหม่เพื่อนร่วมทีมมาเล่าให้ฟังทีหลังว่านั่นแหละเกิดอาการฮาร์ท แอทแทค (Heart Attach) ช่วงที่นั่งพัก เกิดอาหารหายใจเต้นแผ่วแล้วในที่สุดก็หยุดหายใจ แต่โชคดีที่ว่าในโรงยิมมีคุณหมอหัวใจเป็นนักกีฬาอยู่ในสนามท่านก็เลยพยายามทำ CPR จนกระทั่งมีหน่วยกู้ภัยนำเครื่อง AED มาช็อตหัวใจแล้วก็รีบนำส่งโรงพยาบาลที่เชียงใหม่ปรากฏว่าคืนนั้นก็ได้ทำบอลลูนสองเส้น เส้นซ้ายเนี่ยตัน 80% ทำสำเร็จ เส้นขวาเนี่ยตัน 99% คืนนั้นทำไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยๆ ก็ปลอดภัยระดับหนึ่ง
พอกลับมากรุงเทพฯ ผมก็ยังกังวลอยู่ว่าเส้นขวายังตีบอยู่ผมก็เลยไปทำลองทำบอลลูนอีกที่โรงพยาบาลหนึ่งก็ยังไม่สำเร็จอีก จนกระทั่งได้ชื่อนพ.วสันต์มาเราก็ดูประวัติการรักษาวิธีการรักษาว่าในกรณีนี้แบบนี้ท่านมีวิธีการทำอย่างไร เสร็จแล้วก็มาหาต่อว่าท่านทำที่โรงพยาบาลไหนบ้าง พอได้เข้ามาคุยอาจารย์หมอก็แนะนำว่ามันเป็นเคสที่ค่อนข้างยากเพราะว่าทำมาแล้วสองครั้งไม่สำเร็จแต่ก็มีโอกาส เพราะฉะนั้นโอกาสมีมากน้อยแค่ไหนเนี่ยต้องลองฉีดสีดูถึงจะตอบได้ เพราะฉะนั้นถ้าฉีดสีดูแล้วมีความเป็นไปได้สูงก็จะทำเลย ก็เริ่มเข้ามาเตรียมตัวเตรียมร่างกายเข้าห้องประมาณ 3 ทุ่ม พอฉีดเสร็จคุณหมอก็ดูแล้วความเป็นไปได้สูงที่จะทำก็คืนนั้นก็ทำเลย ซึ่งเคสปกติอาจจะใช้เวลาไม่นานเพราะว่าบอลลูนอาจจะใช้เวลาไม่นาน แต่ของผมหลังจากที่ทำเสร็จแล้ว คุณหมออุทัยที่เข้าเคสด้วยบอกว่าเป็นกรณีค่อนข้างยากในรอบหลายปี คืนนั้นใช้เวลาไปประมาณ 5 ชั่วโมงถึงสำเร็จ ก็ได้เส้นเลือดหัวใจเส้นขวากลับมาเป็นปกติ เพราะฉะนั้นตอนนี้ผมก็เลยมีหลอดเลือดหัวใจครบสามเส้นตามปกติแล้วครับ สภาพร่างกายตอนนี้ปกติดี เดินเหินได้ตามปกติ แล้วก็เริ่มออกกำลังกายได้เล็กน้อยครับ
โรงพยาบาลรามคำแหง
436 ถ. รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
1512, 02-743-9999
แฟกซ์ 0 2374 0804
support@ram-hosp.co.th