เสียงจากผู้รับบริการ

คุณมาลี อรุณพูลทรัพย์

อดีตผู้ป่วยเนื้องอกในสมอง

“ไม่มีอาการปวดหัว แต่มีอาการเหมือนโรคซึมเศร้ามาก คือชอบอยู่คนเดียว เอาแต่นอนไม่แต่งตัว”

 

ตั้งแต่ประมาณเดือนกันยายน 2562 คือจะนอน ไม่พูดจากับใครไม่คุยกับใครไม่ยอมไปสอนหนังสือแล้วก็มีอาการมึนหัว งานการไม่เอา แม่ก็บอกว่าลองพาไปเช็คที่ รพ.รามคำแหง ซิว่าเขาเป็นอะไร ก็โทรมาปรึกษากับพยาบาลว่าอาการแบบเนี๊ยะ จากที่เราศึกษาดูเหมือนโรคซึมเศร้าเลย พามาหาหมอโรคจิตแต่อาการเขาน่ะไม่มีปวดหัวเลย ก็มาหาหมอช่วงเดือนธันวาคมประมาณเดือนหนึ่งมาทุกอาทิตย์ก็ไม่ดีขึ้น เพราะว่าคุณไข้เริ่มปัสสาวะ อุจจาระ ไม่รู้เรื่องแล้วน่าจะเกี่ยวกับสมอง เพราะว่าสมองมันจะคุมทุกอย่าง วันนี้เลยต้องเข้าอุโมงค์เลยโดยรอ 4 ชม.เพื่อให้ท้องว่างให้ทุกอย่างว่างให้พร้อม คุณหมอก็บอกว่ามันเป็นเยอะมากเนื้องอกอยู่รอบไปหมดเลย

หมอบอกว่าให้มาเตรียมตัวเลยต้องผ่าตัดใช้เวลา 10 ชม. ที่จะทำการผ่าตัดก็ตกลงมาอยู่นี่แล้วก็เริ่มผ่าตัด พอผ่าตัดแล้วคือเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยออกมาก็อาละวาด จะดึงแผลออก ดึงทุกอย่าง ก็ต้องคอยเฝ้ากันไม่ให้เขาดึง ต่อมาอาการเขาก็ดีขึ้นๆ จำคนโน้นได้จำคนนี้ได้จำทุกอย่างได้ทุกครั้งที่มาหาหมอๆ ก็จะเช็คสมองโดยการให้บวกเลขบ้างให้ลบเลขบ้าง แต่เขาก็ดีขึ้นสามารถจำได้บวกลบเลขได้ คุณหมอบอกว่าจากการผ่าตัด คือสมองเนื้องอกส่วนที่เอาออกไปมันต้องรอเวลาที่จะให้มันกลับมาเหมือนเดิมจากที่มันโดนกดทับมาค่ะ

คุณปราณี และมัด

อดีตผู้ป่วยเนื้องอกในสมอง

“ผ่าตัด 4 ชม.ฟื้นมาก็ปกติ ต่างจากตอนมาอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ”

 

พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมคือ นอนทั้งวันแล้วก็เหมือนถามอะไรก็จะตอบช้าๆ คิดไม่ออก จำ พ.ศ.เกิด วันเกิดของตัวเองไม่ได้ แม่ก็นอนอย่างเดียวเลยแล้วข้าวปลาก็ไม่กิน น้ำก็ไม่อาบหนูก็เอะใจมาก ก็เลยพาแม่ไปรพ.

เวลาเข้าพบหมอๆ ก็ถามอะไรแม่เกี่ยวกับอาการแล้วคุณหมอก็ให้ไปทำเอ็มอาร์ไอฉีดสี รู้ผลๆ ออกมา หมอก็บอกว่าเป็นเนื้องอกในสมองค่ะ ก็เลยต้องอยู่รพ. วันนั้นเลย และต้องผ่าวันรุ่งขึ้นเพราะสมองบวมเยอะแล้วค่ะ

หลังจากคุณหมอผ่าตัด 4 ชม. ก็รู้สึกตัวเลยค่ะ ลูกๆ ก็มาล้อมรอบเตียงถามว่าจำได้ไหม จำ พี่ๆ น้องๆ ได้ไหม คือลูกๆ กลัวว่าจะจำคนโน้นได้มั๊ย จำอะไรต่ออะไรได้มั๊ย แม่ก็จำได้หมดสื่อสารทุกอย่างได้หมด คล่องแคล่ว ดีใจกันใหญ่เลย ร้องไห้แบบดีใจว่าเออคุณแม่จำได้ทุกอย่าง กลับมาเป็นเหมือนเดิม

คุณวนิดา จรกา

อดีตผู้รักษาโรคซึมเศร้าด้วยเทคโนโลยี TMS

“ รู้สึกว่ามันดีขึ้นมันทำให้รู้สึกว่าเราอยากทานแล้วก็นอนหลับได้ จิตใจเราไม่ฟุ้งซ่าน เราไม่ปวดหัว เหมือนเคมีในสมองมันกลับมาปกติ ทำให้เราทำงานได้ปกติเหมือนเดิมค่ะ ก็ดูแลแม่ได้ ช่วยทำงานบ้านได้ ”

 

เริ่มมีอาการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 61 นะคะ แล้วมันไม่ไหว มือสั่น ใจสั่น นอนไม่หลับ กินไม่ได้ก็ไปหาหมอที่คลินิกแห่งหนึ่ง หมอก็ให้กินยานอนหลับให้กินสูงสุดถึงประมาณ 15 เม็ด แต่พี่กินไป 5 เม็ด แล้วก็ยังไม่หลับ ที่บ้านบอกว่าหยุดกินได้แล้ว ทีนี้ก็พอช่วงหลังๆ มาจะแบบรู้สึกกลัว ไม่กล้าขับรถใจมันสั่นหวิว เหงื่อออก ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 62 มาไม่กล้าขับรถ เหมือนว่าปวดหัวมาก ปวดตามไหล่ ปวดตามบ่า ปวดไปทั้งตัว เหมือนหัวมันจะแตก ไม่อยากอยู่ ต้องแอบไม่อยากเจอใคร เพราะเหมือนว่าเราทำอะไรไม่ได้ เราช่วยดูแลแม่ไม่ได้ คือเพิ่งออกมาจากงานเพื่อจะดูแลแม่ แต่ทำไม่ได้มันก็เลยทำให้ไม่อยากอยู่

แม่ก็รักษาอยู่กับคุณหมออริยา เคยถามท่านว่าโรคแบบนี้ต้องทำยังไง หมอบอกว่าให้ลองทำ TMS ดูเผื่อจะดีขึ้น พอประมาณปลายเดือนกรกฎาคมก็เลยมาหาหมอค่ะ พอดีไม่สบายเป็นไข้ปวดหัวมาก ก็นอนแอดมิทที่ รพ.ประมาณ 3-4 วัน แล้ววันที่ 2 หมอก็ให้ทำ TMS ก็รู้สึกดีขึ้นก็ทานข้าวได้ นอนหลับ แล้วก็วันที่ 3 ก็ทำอีกทีก็ดีขึ้นค่ะ หมอบอกว่าให้ยากระตุ้นด้วยนะคะ